น่าจะเกิน 20 ปี นะ เคยอ่านกลอนนี้ โดนใจ..ใช่เลย จำไม่ได้ว่าท่านผู้ใดเป็นผู้เขียน (ไพร่แดง)พยายามฟื้นความจำ
เอามาปะติดปะต่อ ขออนุญาต นำมาเพื่อเป็นประโยชน์กับผู้คน ที่กำลังมองหาสัจธรรมของชีวิต
ผ่านลมร้อนลมหนาวหลายคราวครั้ง
ชีวิตแห่งหวังยังโหยหา
เคลือบรอยยิ้มกลบทางรางน้ำตา
ปกปิดความปวดปร่าไว้มิดชิด
ทุกด้านที่พบเห็นเป็นเช่นนี้
วันหนึ่งร้ายวันหนึ่งดีมีถูกผิด
ในความงดงามมีหนามพิษ
ในความสวยมีจริต มีเล่ห์กล
ในอารมณ์ยินดีมีแอบแฝง
ในความแจ้งมีมุมอับอาจสับสน
ทว่าใครลุ่มหลงหลงไม่คงทน
ก็ตกตนสมเพชเวทนา
ล้วนสวมตัวหัวโขนแสดงบท
เป็นไปตามกำหนดแห่งตันหา
มีความใคร่ความอยากมากมารยา
อนิจจาปุถุชนทุรนรั้น
ธรรมเนียมปีใหม่ให้อวยพร
ต่างก็ป้อนความหวานหว่านความฝัน
ส่งความสุขสดใสให้แก่กัน
ซึ่งแท้จริงนั้นคืออะไร ?
บ้างเพราะรักเพราะศรัทธาจากใจจริง
บ้างกลอกกลิ้งเสแสร้งตามวิสัย
ใครเล่าจะมองเห็นเป็นเช่นใด
นอกจากตนรู้ใจของตนดี
ไม่มีพรใดๆ ให้ใครอื่น
ความสดชื่นไม่ได้เกิดจากพรที่
หยิบยื่นส่งให้กันในวันนี้
เพียงเพื่อทอดไมตรีชั่วครั้งคราว
แต่อยากบอกเพื่อนรักให้พักผ่อน
ดับความเร่าความร้อนทุกย่างก้าว
ชำระใจหมดจดจากขื่นคาว
ระงับความแตกร้าวทุกลีลา
แล้วส่งความจริงใจให้แก่กัน
มิใช่มุ่งฟาดฟันด้วยริษยา
ทั้งผู้น้อยผู้ใหญ่ให้ราคา
เพราะต่างมีคุณค่าเสมอคน
อาจแตกต่างทางฐานะทางหน้าที่
แต่ถ้าไร้อวดดีมีเหตุผล
สังคมย่อมมิยับมิอับจน
แหละย่อมผ่านมืดมน อนธการ
วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา