เครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม เลขทะเบียน ๘๖๙ สภาพัฒนาการเมือง สถาบันพระปกเกล้า

อุดมการณ์สถานักพัฒนาเพื่อประชาธิปไตย

เรา...มั่นใจว่า
ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา
ประเทศไทย เป็นของเราทุกคน
เรา ต้องร่วมกันสร้างชาติไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์  พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

เมื่อสื่อเลือกข้าง

โพสต์ทูเดย์ประกาศเลือกข้าง “ประชาธิปัตย์” ไม่เอา “เพื่อไทย”

วันจันทร์ที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เวลา ๐๙:๔๗ น.

หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ในเครือบางกอกโพสต์ ประจำวันที่ 23 พฤษภาคม 2554 คอลัมน์ของอสนีบาต หน้า A4 ได้ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่าตัดสินใจเลือกว่าที่ผู้แทนพรรคการเมืองที่ต้องการให้ประเทศชาติเดินหน้า ไม่เอาด้วยกับมายาภาพตะแล้ดแต๊ดแต๋

อสนีบาตได้เขียนบทความข่าวซุบซิบหน้า A4 ของไทยโพสต์ให้ความหมายที่ชัดเจนว่าการเลือกพรรคประชาธิปัตย์จะทำให้การเมืองเดินหน้าได้ การเลือกพรรคเพื่อไทยจะทำให้มีการนิรโทษกรรมนักโทษตั้งแต่ถูกรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ซึ่งเป็นสำเนียงของมนุษย์โคลนนิ่ง นับเป็นการแสดงท่าทีอย่างเปิดเผยและกล้าหาญของสื่อมวลชนที่เลือกข้างพรรคประชาธิปัตย์ และปฏิเสธพรรคเพื่อไทย ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง หลังจากที่พรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรคได้ส่งคนเข้าไปซื้อหุ้นใหญ่ในสื่อมวลชนค่ายยักษ์ 2 ค่ายเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว
นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่าตนได้เตือนคนไทยให้ได้รู้โดยทั่วกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ว่าอำนาจการเมืองและทุนสามานย์ได้ทำให้การเมืองกับสื่อต้องผูกโยงเข้าด้วยกัน พึ่งพาอาศัยและทำมาหากินด้วยกัน ทำให้เกิดสภาพสื่อขายตัว สื่อขายชาติ เช่นเดียวกับนักวิชาการขายตัวและนักวิชาการขายชาติ ซึ่งเร่งฝีก้าวหายนะและกลียุคให้กับชาติบ้านเมือง ดังนั้นในบ้านเมืองของเรายามนี้เรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนจึงไม่มีใครสนใจ โพนทะนาว่ากล่าวกันด้วยเรื่องที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของคนชั่วช้าสารเลวทั้งสิ้น กระแสสื่อจำนวนมากในวันนี้ยกย่องเชิดชูสนับสนุนคนชั่วช้าสารเลว เหยียดหยามประณามคนดี เข้าทำนองกระเบื้องเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าอันลอยจะถอยจม ซึ่งเป็นสัญญาณการสิ้นชาติ

นายไพศาล พืชมงคล กล่าวว่าสภาพโดยทั่วไปในขณะนี้สื่อที่ยืนข้างประชาชนถ่ายเดียวเห็นจะมีแค่ 3 สำนัก คือเอเอสทีวี, เอฟเอ็มทีวี และสถานีโทรทัศน์เสียงประชาชน ช่อง 13 สยามไท ดังนั้นประชาชนที่บริโภคข่าวจึงต้องใคร่ครวญและใช้ความรอบคอบละเว้นหรืองดหรือลดการเสพยาพิษเสียบ้าง บ้านเมืองก็อาจจะดีขึ้น.

หลวงพ่อจรัญทักมาร์คคัมแบ็คนายกฯ ข่าวจากโพสต์ทูเดย์ • 16 ก.ย. 2554, 15:44 น.
• หมวดหมู่ : ข่าวเด่น
อภิสิทธิ์ ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม จ.สิงห์บุรี แวะ นมัสการ หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน ทัก มีโอกาสกลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบ
เช้าวันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะผู้บริหารพรรค เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วม ที่จ.สิงห์บุรี โดยออกจากกทม.ตั้งแต่ 08.00 น. และในเวลา 09.30 น. ได้เข้านมัสการพระธรรมสิงหบุราจารย์ (หรือหลวงปู่จรัญ ฐิตธมฺโม) ที่วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี พร้อมกับสนทนาขอข้อมูลและคำแนะนำถึงการแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมรวมถึงความเดือนร้อนของชาวบ้านและพระภิกษุสงฆ์

ทั้งนี้ ระหว่างการสนทนา หลวงพ่อจรัญได้ฝากให้นายอภิสิทธิ์ ช่วยติดตามเรื่องการก่อสร้างโรงพยาบาลใน จ.สิงห์บุรี ที่ได้รับการอนุมัติงบจากรัฐบาลที่ผ่านมา เป็นเงินร่วม 200 กว่าล้านบาท โดยขอร้องว่า อย่าให้มีการยกเลิก และไม่ควรมีการย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลออกนอกพื้นที่ โดยนายอภิสิทธิ์ รับปากติดตามงบประมาณส่วนดังกล่าวให้ ส่วนการโยกย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลนั้น ถือเป็นอำนาจของรัฐบาลที่จะดูในเรื่องนี้
นอกจากนี้ หลวงพ่อจรัญ ยังได้กล่าวกับนายอภิสิทธิ์และกลุ่มสื่อมวลชนที่เข้ากราบนมัสการตอนหนึ่งว่า “เคยได้อ่านคำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ กันหรือยัง รู้ใช่ไหมว่า ที่ท่านได้เคยทำนายว่า ถ้าประเทศไทยมีนายกฯเป็นผู้หญิง จะทำให้บ้านเมืองเสียหายมีปัญหาจึงขอให้นายอภิสิทธิ์รักษาเนื้อ รักษาตัวให้ดี เพราะจะได้กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งหนึ่งแน่ให้ดูแลทุกข์สุขชาวบ้านไว้”

บรรยายถึงคำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

คำทำนายที่เคยมีช้านานนัก
เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้
หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยทำนาย
เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา

ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง
น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า
พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา
เป็นประชาจนเต็มพระนคร

ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน
ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร
ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร
องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน

ชาวประชาจะปิติยิ้มสดใส
แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น
จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน
เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา

จะมีการต่อตีกันกลางเมือง
ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า
คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา
ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร

ข้าราชการตงฉินถูกประนาม
สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้
เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป
โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี

ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว
ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี
ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี
เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน

พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ
มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน
พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย

แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก
เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย
เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน

ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช
ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล
จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม

ความระทมจะถมทับนับเทวศ
ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม
ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง

จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว
ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง
สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ
ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม
หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป
เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา

คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น
แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา
ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ


เมื่อพิจารณาข้อมูลเหล่านี้ แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมโพสต์ทูเดย์จึงลงข่าวบทความเช่นนี้ แบบทึกทักคำกล่าวของหลวงพ่อจรัญ ทำให้คนรากหญ้าที่นับถือหลวงพ่ออยู่อาจตั้งสติไม่ทัน หลงเข้าใจหลวงพ่ออย่างขาดความเคารพนับถืออีกต่อไป แต่ถ้าตั้งสติพิจารณาถึงคำของหลวงพ่อจะเห็นว่า จากคำทำนายของหลวงพ่อฤษีลิงดำตามคำกลอนนั้น จะบอกถึงเหตุการณืว่า เมื่อช่วงเวลาที่นารีขี่ม้าขาวมาบริหารบ้านเมือง จะป็นช่วงที่บ้านเมืองเกิดความเสียหายจากภัยธรรมชาติ สายน้ำหลั่งกากเชี่ยว หวาดเสียวใจ แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก (เกิดรัฐบาลเงา) แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก
เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน
ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม
ความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง .
ในขณะทีหลวงพ่อก็เตือนให้นายอภิสิทธิ์ระวัง รักษาเนื้อ รักษาตัวให้ดี ก็ไม่รู้ว่า นายอภิสิทธิ์ จะทำได้หรือไม่เพราะคดีความที่ไล่หลังตามมากำลังจะส่งผลกรรมอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก แล้วจะกลับมาอีกได้อย่างไร?จงวิเคราะห์ข่าวให้ดีอย่าตกเป็นเครื่องมือของสื่อเลือกข้าง อย่าลืมว่า ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้ จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ จงยกระดับความเป็นไพร่ ไปสู้ความเป็นพลเมืองประชาธิปไตย และลดระดับของอำมาตย์ข้าราชการให้มีจิตสำนึกของความเป็น ลูกจ้างของประชาชน อย่าทำตัวเป็นจ้าวนายของประชาชนต่อไปหรือเป็นเสี้ยนหนามแผ่นดินให้ต้องแตกแยกเป็นสองเลย แม่ทัพนายกองทั้งหลายก็จงออกมาสู้หน้ากับนายกหญิงด้วยในยามที่จะต้องทำพิธีสำคัญหรือร่วมกันแก้ปัญหาของชาติ บ้านเมือง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา