เครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม เลขทะเบียน ๘๖๙ สภาพัฒนาการเมือง สถาบันพระปกเกล้า

อุดมการณ์สถานักพัฒนาเพื่อประชาธิปไตย

เรา...มั่นใจว่า
ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา
ประเทศไทย เป็นของเราทุกคน
เรา ต้องร่วมกันสร้างชาติไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์  พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วัฒนธรรมประชาชนนิยม

"ความรู้แจ้งเห็นจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"
โดย อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง

ก่อนอื่นต้องแสดงความยินดีกับ ออง ซาน ซู จี ที่ได้รับการปล่อยตัวจากรัฐบาลพม่า ถึงแม้ว่าจะช้าแต่ก็ไม่สาย ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีสำหรับประชาธิปไตยในภูมิภาคนี้ คงจะมีโอกาสได้มาถึงบ้านเรา หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น ขอเรียกร้องสุดท้ายขอคนเสื้อแดงผู้อาภัพ มีเพียงขอให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองแกนนำคนสำคัญทุกคนรวมทั้งประชาชนที่ถูกคุมขัง และขอให้ยุติการไล่ล่าแกนนำทุกคน เพราะคนเหล่านั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ รัฐบาลไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิบัติกับประชาชนผู้รักความยุติธรรม รักประชาธิปไตยอย่างนี้ได้ ให้ตรองดูว่าข้อเรียกร้องที่ผ่านมามีอะไรบ้างที่รัฐบาลยอมให้กับคนเสื้อแดง เราไม่เคยได้อะไรเลยนอกจากเสียกับเสีย จากวันนั้นถึงวันนี้

๑. การเรียกร้องต่อต้านการรัฐประหารเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ โดย กลุ่มนายทหารรวมตัวกันเรียกว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ การต่อต้านทำกันอย่างออกหน้าออกตายังไม่มีคำสั่งปราบปรามประชาชนแม้แต่คนเดียว นอกจากการจับกุมแกนนำที่ไปหน้าบ้านอำมาตย์เปรมเท่านั้น เราแพ้ครั้งที่หนึ่ง

๒. การต่อต้านรัฐธรรมนูญฉบับปี ๒๕๕๐ ที่ออกทำประชามติแบบขอไปที มีการหลอกชาวบ้านให้รับๆ ไปก่อนแล้วค่อยแก้ทีหลัง แถมยังมีการขู่อีกว่าถ้าไม่รับฉบับบนี้จะเอาฉบับที่แย่กว่านี้มาบังคับใช้ มันเป็นใครมาจากใหน ทำไมคนทั้งประเทศจึงต้องยอมคนพวกนี้ด้วยสุดท้ายรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการก็ผ่านประชามติแบบเฉียดฉิว เราแพ้เป็นครั้งที่สอง คนพวกนี้มันทำไม่เกรงใจฟ้าดินเลย มันมีคนสั่ง มีคนหนุนหลังที่ใครก็ไม่อาจเอื่อมถึงได้เป็นผู้ให้ท้าย

๓. การต่อต้านอำมาตย์ให้ออกมารับผิดชอบ ในการอยู่เบื้องหลังของการรัฐประหาร มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนที่บ้านของอำมาตย์ ปรีย์ และพวกเพื่อทำการลอบสังหารนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร หลังจากแผนที่หนึ่งพลาดจึงได้ใช้แผนสองคือวิธีการทำรัฐประหาร ขณะที่นายกรัฐมนตรีไปปฏิบัติภาระกิจที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

๔. การต่อต้านเรียกร้องให้มีการล่าออกของอำมาตย์ที่แอบอ้างคำสั่งจากฟ้าทำการรัฐประหาร เข้ามาแทรกแซงทางการเมืองโดยการแต่งตั้งองค์มนตรีเป็นนายกรัฐมนตรี และพวกพ้องของตนเป็นจำนวนมากเป็นคณะรัฐมนตรีชุดขิงแก่ หลังจากที่มีการสืบทราบจนได้ความจริงทั้งหมดจากผู้ที่เข้าประชุมกับเหล่าอำมาตย์หลายครั้งหลายคราเพื่อวางแผนลอบสังหารและยึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ความรับผิดชอบครั้งนี้ถูกตอบแทนด้วยกระสุนจริงจากการสลายผู้ชุมนุม โดยมีการสร้างสถานการณ์จากคนของรัฐบาลที่จ้างมาเพื่อเผารถเมย์ สร้างความวุ่นวายและมีการบุกจับตัวแกนนำคนสำคัญไปด้วย เราต้องแพ้อีกครั้งเป็นครั้งที่สาม

๕. หลังจากถูกสลายไปเมื่อปี ๒๕๕๒ ในเหตุสงฆ์กรานต์เลือดการรวมตัวกันอีกครั้งหนึ่งก็เกิดขึ้นโดยลดข้อเรียกร้องเหลือแค่ยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชนเท่านั้น เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สั่งให้สลายม็อบในเวลาพบค่ำ ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตของประชาชน ๒๑ ศพและทหาร ๕ นาย เป็นความผิดพลาดอันยิ่งใหญ่ของรัฐบาล แทนที่นายอภิสิทธิ์จะแสดงความรับผิดชอบแต่กับโยนความผิดให้คนเสื้อแดงกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ครั้งนีเราน่าจะเป็นฝ่ายชนะ

๖. การเรียกร้องหาคนฆ่า คนสั่ง คนลงมือสังหารโหดประชาชนที่ผ่านฟ้าได้เกิดขึ้นที่ ราชประสงค์ แต่รัฐบาลก็บิดพริวอย่างเคยไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสินเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น การร้องขอให้ยุบสภาก็เป็นเสมือนเด็กเล่น มีข้อแม้มากมายที่ไม่สามารถควบคุมได้ นายอภิสิทธิ์ ได้สร้างความแค้นให้กับประชาชนทั่วประเทศอีกครั้งหนึ่ง โดยการสั่งทหารจำนวนหลายสิบกองร้อยนับหมื่นนายขอกระฉับพื้นที่และสังหารหมู่ประชาชน โดยวางแผนทำสงครามในสมรภูมิกลางเมือง มีหน่วยแม่นปืนซุ่มอยู่ในบนตึกที่อยู่รอบ ๆ พื้นที่ผู้ชุมนุม มีการสังหารประชาชนอย่างโหดเหี้ยมทั้งที่อยู่ในเขตอภัยทานในวัดปทุมวนาราม มีผู้เสียชีวิตเกือบร้อย ศพ และมีผู้บาดเจ็บจำนวน สองพันกว่าคน ไม่รวมผู้สูญหายอีกหลายร้อยคนความสูญเสียด้านทรัพย์สินที่ทหารเข้าไปเผาอีกมหาสาร รัฐบาลกล่าวหาว่าผู้ก่อการร้ายเป็นคนลงมือตามสูตรเดิม คนเสื้อแดงแพ้ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของแต่ละศึก รัฐบาลและพวกอำมาตย์ฉลองชัยกันที่ราบ ๑๑ หลังจากแกนนำยอมสลายการชุมนุม

๗. ผ่านมาถึงวันนี้หกเดือนยังไม่มีใครรับผิดชอบในการเสียชีวิตของคนเสื้อแดง ยังไม่มีหลักฐานว่าคนเสื้อแดงเป็นผู้ก่อการร้ายเลย ศพที่เสียชีวิตไม่มีอาวุธเลยแม้แต่ศพเดียว มีแต่อาวุธของทางรัฐบาลเท่านั้นที่นำมาจัดฉากใส่ร้ายแกนนำ ความโหดเหี้ยมของรัฐบาลและพวกอำมาตย์ยังกระหายเลือดไล่ล่าแกนนำคนเสื้อแดงผู้ประท้วงอย่างบ้าคลั่งไม่มีที่สิ้นสุด ข้อเรียกร้องสุดท้ายของประชาชนคือขอให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองแกนนำทุกคนและยุติการไล่ล่าในทุกพื้นที่ทุกรูปแบบทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดรวมทั้งในต่างประเทศด้วย นี้คือข้อเรียกร้องสุดท้ายของคนเสื้อแดง ถ้าไม่สำเร็จคนเสื้อแดงต้องรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร การต่อสู้ของคนเสื้อแดงจะดำเนินการอย่างเดิม ๆ ดั่งที่ผ่านมาคงจะไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ควรหารูปแบบอื่นที่นำไปสู่ชัยชนะสู่ความสำเร็จ อาจจะต้องแยกกันตีทำองค์กรขนาดเล็กๆ หลายองค์กรทำหน้าที่พิเศษ ส่วนองค์กรประชาชนก็เป็นการรวมกันเป็นองค์กรขนาดเล็กมีความหลากหลายที่มีจำนวนมากเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำหน้าที่หลากหลาย อาจต่างกัน หรือเหมือนกันก็ได้ อาจจะมีรูปแบบและไม่มีรูปแบบก็ได้ขึ้นอยู่กับความสดวกแล้วแต่สถานการณ์ ขอให้มีความมุ่งมั่น ความตั้งใจในอุดมการณ์จะทำให้เราได้รับชัยชนะในที่สุด เราอาจจะแพ้ในศึกที่ผ่านมา แต่จงจำไว้ว่าเราจะชนะสงครามนี้ด้วยกัน เรารู้แล้วว่าเรากำลังรบอยู่กับกองทัพ

ข้อเรียกร้องนี้เป็นฟางเส้นสุดท้าย สำหรับประชาธิปไตย การเดิมพันครั้งนี้สูงมากถ้าเราชนะได้ประชาธิปไตยเต็มใบ ต่อไปเราจะมีผู้นำมาจากมือของประชาชนทั่วประเทศ ผู้นำจะต้องสาบานตนต่อหน้ามวลมหาประชาชนที่จะเฝ้าดูว่าผู้นำนั้นจะทำตามสัญญาหรือไม่ เราจะมีการเปลี่ยนวัฒนธรรมของผู้นำประเทศเป็นวัฒนธรรมประชาชนนิยม สำหรับข้าราชการทหารตำรวจควรจะได้สำนึกแล้วว่าท่านจะปฏิบัติหน้าที่เพื่อใครจุดมุ่งหมายของชีวิตท่านทำเพื่ออะไรเพื่อใคร หรือเพื่อคนไม่กี่คน หรือทำเพื่อคนทั้งแผ่นดิน ในยามนี้ประชาชนว้าเหว่ขาดที่พึ่งที่หวัง ท่านอย่าได้ซ้ำเติมมประชาชนอีกเลย เรามาร่วมกันเปลี่ยนค่านิยมที่ผิด ๆ มาเป็นค่านิยมที่ถูกต้องยุติธรรมมีประชาธิปไตย ควรนิยมคนที่เป็นคนดี คนจริง มีผลงาน สร้างชาติสร้างความเจริญให้สังคมประเทศ เหล่านี้จะนำพาความสุขใจภาคภูมิใจมายังท่านรวมทั้งประชาชนประเทศไทยของเรา วัฒนธรรมการฟัง ฟังคนที่พูดเก่งพูดเพราะพูดดีแต่โกหกควรจะต้องยุติเพราะไม่ได้สาระกับชีวิตของเรา การพูดเอาดีใส่ตัวชั่วให้คนอื่นคือวัฒนธรรมที่เลวร้าย เราต้องทำลายวัฒนธรรมนี้เสีย ควรเปรียบเทียบกับวัฒนธรรมการดูการมองการพิจารณาด้วยตาของตนเองนั้นอย่างไหนสำคัญกว่ากัน ถ้าเราทุกคนเลือกที่จะดูเลือกที่จะสัมผัสในสิ่งที่จับต้องได้ วันนี้ประเทศของเราจะไม่ตกอยู่ในสภาวะอย่างนี้แน่นอน สุภาษิตที่ว่า “ สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น” เราต้องเป็นผู้นิยมความจริง คุณก็ลองไปคิดกันเองก็แล้วกัน เราต้องสร้าง “วัฒนธรรมประชาชนนิยมรู้แจ้งเห็นจริง คือสิ่งไม่ตาย”

1 ความคิดเห็น:

  1. สังคมกำลังเรียนรู้ ความจริงที่อยู่เบื้องหลัง บางครั้งดูเหมือนจริง แต่ไม่จริง บางคนเหมือนจะดี แต่ไม่ดีจริง บางคนน่านับถือ แต่ความจริงไร้หลักการ ประชาชนจะเรียนรู้ได้เองจากพฤติกรรม ไม่ใช่คำพูด ที่เอาแต่ดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น

    ตอบลบ

ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา