เครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม เลขทะเบียน ๘๖๙ สภาพัฒนาการเมือง สถาบันพระปกเกล้า

อุดมการณ์สถานักพัฒนาเพื่อประชาธิปไตย

เรา...มั่นใจว่า
ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา
ประเทศไทย เป็นของเราทุกคน
เรา ต้องร่วมกันสร้างชาติไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์  พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

จดหมายเปิดผนึก จากนักโทษการเมือง

ถึง คอป. เพื่อสิทธิมนุษยชนและการปรองดอง

เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
33 งามวงศ์วาน ลาดยาว
จตุจักร กรุงเทพ 10900

วันที่ 10 กรกฎาคม 2554

เรื่อง ขอเสนอเพื่อสิทธิมนุษยชน และการปรองดอง

เรียน คณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อแนวทางการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)

ขอแสดงความยินดีกับการทำงานครบรอบ 1 ปีของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อแนวทางการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) จนเป็นที่ยอมรับในการทำหน้าที่อย่างเป็นอิสระ ตรงไปตรงมา โปร่งใส หลากหลายนักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อแก้ไขปัญหาความรุนแรง สร้างความปรองดองในสังคม ในฐานที่กระผม นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ได้รับผลกระทบโดยตรงจากความขัดแย้งทางการเมือง และความรุนแรงในสังคม ต้องถูกกล่าวหา และถูกจองจำให้สูญเสียอิสรภาพ ได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ อันเกิดจากการมีส่วนร่วมต่อต้านการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จึงเรียนนำเสนอแนวความคิดเพื่อการปรองดองดังต่อไปนี้

1. นับตั้งแต่รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 สถาบันกษัตริย์ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ทางการเมือง และเป็นเครื่องมือทางกฏหมายเพื่อริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน ทำให้มีการดำเนินคดีในข้อหา “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” หรือ มาตรา 112 เพิ่มมากขึ้น มีนัการเมือง นักศึกษา นักวิชาการ สื่อมวลชนถูกดำเนินคดี และถูกจองจำ หรือต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ การนำสถาบันกษัตริย์มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองเป็นเหตุให้มีความขัดแย้งแตกแยกอย่างรุนแรงในสังคมไทโดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา มีความคลุมเคลือ และถูกตีความเกินขอบเขต มีบทกำหนดโทษเกินกว่าเหตุ ทำให้มีช่องว่างใช้จำกัดสิทธิการประกันตัว ซึ่งขัดต่อหลักปฏิญญาณสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ทำให้ผู้ถูกกล่าวหาเลือกวิธีการรับสารภาพ หรือไม่ต่อสู้คดี เพราะไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว และการพิจารณาคดีเป็นไปด้วยอคติทางการเมือง นำมาซึ่งความอยุติธรรม ดังนั้นจึงขอให้ คอป. ได้ศึกษาถึงปัญหาการใช้มาตรา 112 เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้เกิดความเป็นธรรม และปกป้องสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน รวมทั้งให้กระบวนการยุติธรรม ให้ความเป็นธรรต่อผู้ถูกกล่าวหาด้วยการให้สิทธิประกันตัวเพื่อการต่อสู้คดี

2. กระผมได้ทำหน้าที่สื่อมวลชนในการจัดทำนิตยสาร RED POWER วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และยังได้เปิดเนี้อที่เป็นเวทีการแสดงความคิดเห็นของประชาชนต่อสถานการ์บ้านเมืองจนเป็นเหตุให้รัฐบาลพยายามสั่งปิดนิตยสาร RED POWER กระทั่งใช้มาตรา 112 มาดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยไม่ได้รับสิทธิการประกันตัว นอกจากนี้รัฐบาลยังสั่งปิดวิทยุชุมชน 13 แห่ง สั่งปิดเวปไซต์กว่า 20,000 แห่ง เป็นการคุกคามเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น ปิดกั้นข่าวสารของประชาชน จึงขอให้ คอป. ศึกษาข้อเท็จจริงดังกล่าว และเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยให้พนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการให้ความเป็นธรรมในคดีมาตรา 112 ต่อตัวกระผม และให้รัฐบาลใหม่คืนเสรีภาพวิทยุชุมชน เวปไซต์ เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศสิทธิมนุษยชน และการปรองดองในสังคม

3. คนเสื้อแดงจำนวนมาเป็นประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย ต้องถูกกล่าวหาเป็นผู้วางเพลิง ลักทรัพย์ มีอาวุธสงคราม อันเกิดจากการจัดฉากของทหาร และตำรวจ เพื่อยัดเยียดข้อกล่าวหาดังกล่าว ทั้ง ๆ ที่เป็นความบกพร่องของรัฐบาลที่ไม่มีการป้องกันทรัพย์สินเอกชน อีกทั้งการปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรงย่อมเกิดเหตุการณ์จราจล มีผู้ฉวยโอกาสสวมรอยเข้าไปลักทรัพย์ รวมทั้งมีผู้บริสุทธิ์ซึ่งหลบหนีความตายไปหลบอยู่ภายในอาคารห้างสรรพสินค้า ดั้งนั้นรัฐบาลควรเป็นผู้ดำเนินการให้มีการประกันตัวให้ต่อสู้คดี รวมทั้งสอบสวนหาความจริงกรณีทหารและตำรวจบกพร่องต่อการทำหน้าที่ปกป้องทรัพย์สินในเหตุการ 19 พฤษภาคม 2553

4. คอป. ควรศึกษาบทเรียนกรณีรัฐประหาร 6 ตุลาคม 2519 มีนักศึกษาเข้าร่วมกองกำลังอาวุธตอบโต้รัฐบาลเผด็จการ ต่อมารัฐบาลพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ออกกฏหมายนิรโทษกรรมทำให้เกิดการปรองดอง และหันกลับมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เพื่อนำมายกร่างกฏหมายนิรโทษกรรมเป็นการเร่งด่วน ให้กับประชาชนทั้งกลุ่มเสื้อเหลือ และกลุ่มคนเสื้อแดงที่ถูกดำเนินคดีเพื่อนำมาสู่การปรองดองในที่สุด

5. คอป. ควรศึกษาการใช้ พรบ.ความมั่นคงฯ และ พรก.ฉุกเฉิน และพรบ.ชุมนุมสาธารณะ เพราะกฏหมายดังกล่าวถูกใช้เป็นเครื่องมือปราบปรามประชาชน สร้างความตึงเครียด ทำหการชุมนุมโดยสงบส่อเค้าบานปลายให้รัฐบาลใช้ความรุนแรงได้ จึงควรทบทวนการใช้กฎหมายดังกล่าว เพื่อก้ไขหรือยกเลิกต่อไป เพื่อสร้างหลักประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชน

จึงเรียนมายังคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อแนวทางการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ทุกท่านเพื่อประกอบการดำเนินงานอย่างรอบด้านเพื่อสิทธิมนุษยชน ความเป็นธรรม และปรองดองในสังคม โดยกระผมยินดีจะให้ความร่วมมือ และมีส่วนร่วมต่อการแสวงหาข้อเท็จจริง และแนวทางปรองดองต่อไป

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง


(นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข)

นักโทษการเมืองคดีหมินพระบรมเดชานุภาพ

เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา