ระหว่าง "รมว.นิพิฏฐ์" แห่งกระทรวงวัฒนธรรม กับ "วาด รวี - ปราบดา หยุ่น"
เว็บไซต์กระทรวงวัฒนธรรมได้เผยแพร่บทความ คำให้การของ "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" ถึง "วาด รวี" และ "ปราบดา หยุ่น" ที่ รมว.วัฒนธรรมได้เขียนตอบโต้ จดหมายเปิดผนึกถึง นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย "วาด รวี" และ "ปราบดา หยุ่น" สองนักเขียนดังผู้ออกมาเป็นแกนนำเคลื่อนไหวให้มีการแก้ไขปรับปรุงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้เรียน คุณวาด รวี และ คุณปราบดา หยุ่น
ผมอ่านจดหมายเปิดผนึกของคุณทั้งสองที่มีถึงผมแล้ว ตอนแรกตั้งใจจะไม่ตอบ เพราะไม่มีเวลา แต่คิดไปคิดมาถ้าไม่ตอบคุณทั้งสองอาจจะเข้าใจผิดว่า ผมยอมรับหรือจำนนต่อเหตุผลของคุณ ซึ่งอาจทำให้ผมได้รับความเสียหายได้
"ข้อหา" ที่คุณทั้งสองตั้งให้ผมนั้นดูเหมือนรุนแรงเกินไป และขัดต่อเหตุผลและข้อเท็จจริงหลายประการ แต่ผมให้อภัย เพราะคิดว่าคุณทั้งสองกำลัง "จินตนาการ" ตามวิสัยของความเป็นนักเขียนของคุณ แต่บังเอิญจินตนาการของคุณล้ำเข้ามาในเขตแดนของผม และทำลายความสงบสุขในเขตแดนของผม โดยไม่เป็นธรรมโดยเฉพาะข้อหาที่คุณ กล่าวว่า การให้สัมภาษณ์ของผม "ไม่เป็นผลดีต่อการใช้เหตุผลและสติปัญญาของสังคม และอาจส่งผลให้วัฒนธรรมทางปัญญาของสังคมไทยเสื่อมเสียได้" และข้อหาที่ว่าผม "กระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์" ผมขอแก้ข้อกล่าวหาของคุณทั้งสอง ดังนี้
ข้อ 1 กรณีที่คุณทั้งสองกล่าวว่า มาตรา 112 ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ขอชี้แจงว่า ต้องยอมรับความจริงว่าปัจจุบันมีผู้พยายามทำความผิดตามมาตรา 112 มากขึ้นอย่างผิดปกติจะด้วยวัตถุประสงค์อย่างไรก็ตาม และต้องยอมรับว่าผู้ทำความผิดตามมาตรา 112 ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองหรือผู้สนับสนุนนักการเมือง ดังนั้น เมื่อรัฐดำเนินคดีกับคนเหล่านี้ จึงเป็นการใช้อำนาจตามปกติ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม และศาลก็มีคำพิพากษาลงโทษไปแล้วหลายราย ดีที่คุณทั้งสองยังไม่กล่าวหาว่า "ศาล" ก็ใช้มาตรา 112 เป็นเครื่องมือทางการเมืองด้วย ต่อไปภายภาคหน้าหากมีผู้กระทำความผิดฐานข่มขืน กระทำชำเรามากขึ้น คุณวาด รวี และคุณปราบดา หยุ่น อย่าเผลอว่ารัฐใช้ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเป็นเครื่องมือทางการเมืองอีกล่ะครับ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่นักการเมืองหรือผู้สนับสนุนทางการเมืองเป็นผู้พยายามละเมิดมาตรา 112 จึงต้องดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้เท่านั้นเอง ท่านทั้งสองอย่าจินตนาการอะไรไปให้มากไปกว่านี้เลยครับ
ข้อ 2 ความเห็นของผมในประเด็นที่ว่าหากให้ราชเลขาธิการเป็นผู้ฟ้องร้องเอง เหมือนกับการเอา "สถาบัน" มาเป็น "คู่กรณี" กับประชาชน โดยคุณทั้งสอง แย้งว่า เคยมีกรณีที่สำนักราชเลขาธิการเป็นคู่กรณีมาแล้ว เช่น กรณีสำนักราชเลขาธิการมอบให้ดีเอสไอเป็นโจกท์ฟ้อง "เสี่ยอู๊ด" กรณีการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ในประเด็นนี้ ผมขอชี้แจงว่า ความผิดของเสี่ยอู๊ด เป็นความผิดตาม พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค, พรบ.เครื่องหมายราชการ และกฎหมายอาญา ฐานฉ้อโกงประชาชน เท่านั้น มิใช่ กรณีตาม มาตรา 112 ที่มอบให้สำนักราชเลขาธิการเป็นผู้ฟ้องหรือมอบให้ดีเอสไอเป็นผู้ฟ้อง เป็นเรื่องผู้เสียหายจำนวน 921 คน ไปแจ้งความร้องทุกข์ว่า "ถูกฉ้อโกง" และเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบต้องพิจารณาหาว่า การกระทำของเสี่ยอู๊ดผิดกฎหมายใดบ้างเท่านั้น มิใช่เป็นกรณีสำนักราชเลขาธิการ เป็นคู่กรณีกับชาวบ้าน ตามที่คุณทั้งสองเข้าใจ ประเด็นนี้ผมไม่โทษคุณ เพราะคุณมิใช่นักกฎหมาย แต่บังเอิญคุณจินตนาการตามความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เท่านั้นเอง ในฐานะผู้มีอายุมากกว่า ถือว่า "อโหสิ" กันได้ แต่หากผมไม่ตอบจะทำให้ประชาชนสับสน เพราะคุณทั้งสอง ก็มีต้นทุนทางสังคมสูงอยู่ หากคนไทยไม่ใช้หลัก "กาลามสูตร" ในการพิจารณาก็อาจเชื่อคุณทั้งสองได้
ข้อ 3 ประการต่อไปคุณทั้งสอง กล่าวว่า ผมมีความเห็นไม่ตรงกับท่านนายกรัฐมนตรี ขอชี้แจงว่า ผมและท่านนายกรัฐมนตรีมีความเห็นตรงกัน เป็นเรื่องที่คุณทั้งสองจับบางคำพูดของท่านนายก ฯ มากล่าว เป็นการ "ตีความไม่แตก" เท่านั้นเอง และในบางเรื่องที่ผ่านมา ผมก็เคยมีความเห็นไม่ตรงกับท่านนายกฯ แต่เมื่อมีมติออกมาเป็นอย่างไรทุกอย่างก็ยุติ ความจริงคุณทั้งสองที่อ้าง "ประชาธิปไตย" น่าจะมายกย่องผม แต่คุณกลับตำหนิผม หาว่าผมมีความเห็นต่าง ผมจึงสับสนความเป็นบุคคลใน "ระบอบประชาธิปไตย" ของคุณทั้งสองจริง ๆ
ส่วนข้อหาที่ว่าผมทำให้ "วัฒนธรรมทางปัญญาของสังคมเสื่อมถอย" ซึ่งเป็นข้อหาที่รุนแรง ผมยังไม่ตอบวันนี้ เพราะไม่มีเวลาจริง ๆ
คุณวาด รวี และ คุณปราบดา หยุ่น ครับ ในขณะที่คุณทั้งสอง กำลังจิบกาแฟถ้วยที่ 2 ของวันนี้อยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศา ผมอยู่ไกลออกไปเกินกว่า 1,000 กิโลเมตร จากเมืองหลวงของประเทศ อยู่ท่ามกลางอากาศที่ร้อนเกิน 34 องศา ผมอาจจะมีอารมณ์ไปบ้างก็ต้องขอโทษอีก 20 ปีข้างหน้า เมื่อคุณมีอายุใกล้เคียงกับอายุของผมในขณะนี้ ผมหวังจะได้รับจดหมายตอบจากคุณทั้งสอง และ หวังว่า อีก 20 ปีข้างหน้า คุณจะเขียนมาขอโทษผมก็ได้ ผมจะรอครับ
นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
(ที่มา http://www.m-culture.go.th/detail_page.php?sub_id=2898)
ต่อมา"วาด รวี" ได้เขียนบทความตอบโต้ รมว.นิพิฏฐ์ กลับทันที ผ่านทางเฟซบุ๊กของ "UndergroundBuleteen Thailand" ความว่า
เกี่ยวกับ 3 ประเด็นในคำตอบจดหมายของรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม
เนื่องจากคำตอบของรัฐมนตรี
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1307800784&grpid&catid=02&subcatid=0207
ที่ตอบจดหมายเปิดผนึกนี้
http://www.prachatai3.info/journal/2011/05/35200
ตามที่ รมต. ตอบมาสามข้อ ข้าพเจ้ามีความเห็นดังนี้
คำตอบ ข้อหนึ่ง ของ รมต. ฟังไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้พูดถึงประเด็น "ใครก็ร้องได้" ซึ่งเป็นประเด็นที่แม้แต่ นายกฯ อภิสิทธิ์ก็เคยแสดงความเห็นว่ามีปัญหา ประเด็นนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ม.112 ง่ายที่จะใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
ข้อสอง มี 2 ประเด็นย่อย คือ 1 ในกรณีเสี่ยอู๊ด ถือว่า สำนักราชเลขาฯ เป็น คู่กรณี กับชาวบ้านหรือไม่ ดูข่าวนี้ http://news.sanook.com/social/social_225230.php
ถ้าสำนักราชเลขาฯ ไม่ใช่คู่กรณี ทำไมดีเอสไอต้องรอไฟเขียว? ทำไมสำนักราชเลขาฯ ต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้ใครดำเนินการ ระหว่าง สตช., ดีเอสไอ, กรมการศาสนา อันที่จริง หากศึกษาคำพิพากษาคดีนี้ ก็จะเห็นว่า "ความเป็นคู่กรณี" ของสำนักราชเลขาฯ อยู่ที่ประเด็นการนำสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์มาใช้
ข้อสอง ประเด็นย่อยที่ 2 คือ กรณีนี้ถือได้ว่าอยู่ในบริบทแค่ ม. 112 หรือไม่? การที่ รมต. ยืนยันว่าตนพูดเฉพาะบริบท ม.112 นั้นน่าตกใจพอสมควร เช่นนั้น หมายความว่า ท่าน รมต. เห็นว่า กรณีอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ ม. 112 สถาบันฯ สมควร/อยู่ในฐานะ/เหมาะสม ที่จะเป็นคู่กรณีกับชาวบ้าน? จริง ๆ การโต้ รมต. ไม่ใช่การโต้ที่เกี่ยวกับข้อกฎหมาย หรือ ม.112 เลย แต่เป็นการโต้ว่า รมต.เข้าใจผิด ที่บอกว่า สำนักราชเลขาฯเป็นคู่กรณีกับชาวบ้าน = สถาบันเป็นคู่กรณีกับชาวบ้าน ซึ่งไม่จริง เพราะไม่ใช่ และสำนักราชเลขาฯ เคยเป็นคู่กรณีแล้ว (ไม่เกี่ยวกับว่าในกรณีกฎหมายข้อใด) และดุลยพินิจของสังคม (และสำนักราชเลขาฯ) ไม่เห็นว่า การที่สำนักราชเลขาเป็นคู่กรณี = สถาบันเป็นคู่กรณี
ข้อสาม ที่บอกว่า รมต. เห็นต่างกับ นายกฯ ไม่ได้บอกว่า รมต. ผิดที่เห็นต่าง แต่ รมต. ผิดตรงที่ไปยืนยันสิ่งที่ผิดกับข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่แม้แต่นายกยังยอมรับไปแล้ว
ท่านรมต. จบกฎหมายมาจริง ๆ หรือนี่ ทำไมตรรกะท่านแกะรอยแกะดาวขนาดนี้
ประเด็นนี้ข้าพเจ้าเคยตอบไปแล้วที่กระทู้นี้ ผู้สนใจเชิญชม
http://www.thaipoetsociety.com/index.php?topic=3712.msg20048#new
Pg Slot สล็อต เว็บตรง เว็บสล็อตออนไลน์ แตกง่ายจ่ายจริง แจกหนัก แตกหนัง กับ เว็บ pg-slot.game ของเรา PG SLOTที่กำลังมาแรง แซงเว็บเกมอันดับต้น ๆ ไปหมดแล้ว สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้ Pg slot สล็อต เว็บตรง
ตอบลบ