ความผิดเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.
1. การให้ หรือสัญญาว่าจะให้ เงิน หรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด หรือการเลี้ยง หรือรับจะจัดเลี้ยง หรือหลอกลวง หรือใช้อิทธิพลคุกคาม หรือใส่ร้าย เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้ง หรือไม่ลงคะแนนเลือกตั้งเป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 -10 ปี และปรับ 20,000 – 200,000 บาทและถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
2. การจัดยานพาหนะนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปหรือกลับจากที่เลือกตั้ง เพื่อการเลือกตั้ง โดยไม่ต้องเสียค่าโดยสาร
เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 - 5 ปี หรือปรับ 20,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
3. การให้คนที่ไม่มีสัญชาติไทยช่วยเหลือในการหาเสียง
เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 - 10 ปี และปรับ 20,000 - 200,000 บาท
4. การหาเสียงให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งตั้งแต่เวลา 18.00 นาฬิกา ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง
เป็นความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5. ห้ามปิดประกาศ หรือติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งนอกเหนือจากที่ทางราชการกำหนด รวมทั้งติดในสถานที่ของเอกชน และห้ามหาเสียงโดยการติดแผ่นป้ายแนะนำตัวผู้สมัครเกินขนาดและมีจำนวนไม่เป็นไปตามที่ คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด หรือการหาเสียงตามสถานีวิทยุหรือสถานีโทรทัศน์นอกเหนือจาก ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดไว้
เป็นความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
6. การเรียก หรือรับทรัพย์สินในการลงสมัครหรือไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือพรรคการเมือง
เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 - 10 ปี หรือปรับ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
7. เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายกระทำการใด ๆ เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง
เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 - 10 ปี และถูกปรับ 20,000 - 200,000 บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
ความผิดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส.
1. ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือหัวหน้าพรรคใช้จ่ายในการเลือกตั้งเป็นจำนวนเงินเกินกว่าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด
เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 - 5 ปี หรือปรับ 20,000 - 100,000 บาท หรือ ปรับเป็น 3 เท่าของจำนวนเงินเกินกำหนด หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5
2. ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือหัวหน้าพรรคไม่ยื่นบัญชีการใช้จ่ายในการเลือกตั้งภายใน 90 วันหลังจากวันเลือกตั้ง หรือยื่นหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วน
เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
3. ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือหัวหน้าพรรคยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการเลือกตั้งเป็นเท็จ
เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 - 5 ปี และปรับ 20,000 - 100,000 บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
4. สมุห์บัญชีเลือกตั้งจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายในการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศ
เป็นความผิดและมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี และห้ามเป็นสมุห์บัญชีเลือกตั้ง 5 ปี
ความผิดเกี่ยวกับผู้สมัครและการสมัครรับเลือกตั้ง
1.การลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขต หรือแบบบัญชีรายชื่อ โดยรู้อยู่ว่าตนเองไม่สิทธิลงสมัคร หรือการลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคการเมืองเกินกว่า 1 พรรค หรือลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ หรือลงสมัครรับเลือกตั้งเกินกว่า 1 เขตเลือกตั้ง หรือการสมัครลงรับเลือกตั้งมากกว่า 1 เขตเลือกตั้ง
เป็นความผิด มีโทษจำคุก 1 -10 ปี และปรับ 20,000 - 200,000 บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
ความผิดเกี่ยวกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อ
1.การย้ายชื่อบุคคลอื่นเข้ามาในทะเบียนบ้านเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้ง
เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดเกี่ยวกับการลงคะแนนเลือกตั้ง
1.การลงคะแนนเลือกตั้งโดยรู้อยู่ว่าตนเองไม่สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง โดยใช้เอกสารแสดงตน อันเป็นเท็จ
เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 -10 ปี และปรับ 20,000 - 200,000 บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
2.การขัดขวาง ไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ณ หน่วยเลือกตั้ง หรือลงคะแนนเลือกตั้ง
เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 - 5 ปี หรือปรับ 20,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
3.การถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ได้ลงคะแนนเลือกตั้งไว้แล้ว หรือการแสดงบัตรเลือกตั้งที่ได้ลงคะแนนเลือกตั้งไว้แล้วให้ผู้อื่นทราบถึงการลงคะแนนเลือกตั้ง
เป็นความผิดมีโทษจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4.ผู้บังคับบัญชา หรือนายจ้างขัดขวางการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของผู้ใต้บังคับบัญชา หรือลูกจ้าง
เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5.ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด เพื่อลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือพรรคการเมืองใด
เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 - 5 ปี หรือปรับ 20,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
ความผิดเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง
1.การนำบัตรเลือกตั้งออกไปจากที่เลือกตั้ง หรือการทำเครื่องหมายเป็นที่สังเกตไว้ในบัตรเลือกตั้ง หรือการนำบัตรเลือกตั้งใส่ใน*censor*บบัตรเลือกตั้งโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย หรือการทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งผิดไปจากความเป็นจริง หรือกระทำการให้บัตรเลือกตั้งเพิ่มขึ้นไปจากความเป็นจริง
เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 - 5 ปี หรือปรับ 20,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
2.การใช้บัตรอื่นที่มิใช่บัตรเลือกตั้งที่กฎหมายกำหนดหรือการใช้บัตรเลือกตั้งที่มิใช่บัตรเลือกตั้งที่ตนได้รับมา จากการแสดงตน เพื่อลงคะแนนเลือกตั้ง
เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 - 10 ปี และปรับ 20,000 - 200,000 บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
ความผิดเกี่ยวกับการร้องเท็จและเป็นพยานเท็จ
1.กระทำการอันเป็นเท็จให้ผู้อื่นเข้าใจว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
2.กระทำการอันเป็นเท็จเพื่อกลั่นแกล้งผู้สมัครรับเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้สมัครนั้นถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือไม่ให้มีการประกาศผลเลือกตั้ง
เป็นความผิดมีโทษจำคุก 5 -10 ปี และปรับ 100,000 - 200,000 บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
3.การกล่าวหาผู้สมัครรับเลือกตั้งว่ากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง อันเป็นเท็จ
เป็นความผิดมีโทษจำคุก 7 - 10 ปี และปรับ 140,000 - 200,000 บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี
ความผิดเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส.
1.การขัดขวางคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือผู้ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มอบอำนาจไม่ให้เข้าไปในที่อยู่อาศัย สถานที่ หรือยานพาหนะ เพื่อตรวจ ค้น ยึด หรืออายัดทั้งเอกสารทรัพย์สิน หรือพยานหลักฐานอื่นๆ เมื่อมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.การขาย จำหน่าย จ่ายแจก หรือจัดเลี้ยงสุราตั้งแต่เวลา 18.00 นาฬิกา ของก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวัน จนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง
เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
3.การเล่น หรือจัดให้เล่นพนันขันต่อเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง
เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 - 5 ปี หรือถูกปรับ 20,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
4.การเปิดเผย หรือเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการลงคะแนนการเลือกตั้งในระหว่าง 7 วัน ก่อนวันเลือกตั้งจนถึงเวลาปิดการลงคะแนนการเลือกตั้ง
เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือถูกปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5.การกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นอกราชอาณาจักร ไม่ว่าจะเป็นตัวการ ผู้สนับสนุน หรือผู้ใช้ให้กระทำความผิดนั้น ให้ถือว่าตัวการ ผู้สนับสนุน หรือผู้ใช้ให้กระทำความผิดนั้นได้กระทำในราชอาณาจักร
6.ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือศาลฎีกามีคำสั่งให้ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และเป็นเหตุให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ต้องรับผิดและชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดการเลือกตั้งใหม่
วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา