เครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม เลขทะเบียน ๘๖๙ สภาพัฒนาการเมือง สถาบันพระปกเกล้า

อุดมการณ์สถานักพัฒนาเพื่อประชาธิปไตย

เรา...มั่นใจว่า
ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา
ประเทศไทย เป็นของเราทุกคน
เรา ต้องร่วมกันสร้างชาติไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์  พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ทำไมชาวสังคมนิยมต้องเรียกร้องให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย

ใจ อึ๊งภากรณ์

ธรรมดาแล้วนักสังคมนิยมจะไม่ไปลงคะแนนเสียง หรือเรียกร้องให้ประชาชนไปลงคะแนนเสียงให้พรรคการเมืองที่เป็นพรรคนายทุน โดยเฉพาะเวลาพรรคนั้นไม่มีนโยบายรัฐสวัสดิการหรือนโยบายสังคมนิยมอะไรทั้งสิ้น แต่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในต้นเดือนกรกฏาคม ๒๕๔๔ นี้ เป็นการเลือกตั้งพิเศษ

ชาวสังคมนิยมจะต้องไปลงคะแนนเสียงให้พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคนายทุน เพราะเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งนี้ของฝ่ายอำมาตย์ คือการฟอกตัวและพยายามพิสูจน์ความชอบธรรมในการทำรัฐประหาร ๑๙ กันยา ในการล้มรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ในการตั้งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ในค่ายทหาร และในการเข่นฆ่าประชาชนเสื้อแดงที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อปีที่แล้ว เรายอมไม่ได้

ลองนึกภาพ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เสียงข้างมาก (ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้) หรือถ้าพรรคประชาธิปัตย์สามารถทำแนวร่วมกับพรรคงูเห่าเล็กๆ เพื่อได้เสียงมากกว่าพรรคเพื่อไทย คนอย่างอภิสิทธิ์จะพองตัวเหมือนคางคกโอ้อวดความชอบธรรม จะมีคนของมันออกมาพูดว่า “เห็นไหม? พรรคไทยรักไทยหรือพรรคของทักษิณโกงการเลือกตั้งมานานในอดีต คราวนี้เราเห็นเสียงแท้ของประชาชน และเราเข้าใจแล้วว่าทำไมต้องมีรัฐประหารและการปราบพวกของทักษิณ” เรายอมให้เขาพูดแบบนี้ไม่ได้

นี่คือเหตุผลเดียวที่เราต้องเรียกร้องให้คนไปเลือกพรรคเพื่อไทย เพราะการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้เป็นการแข่งขันในเรื่องความชอบธรรม ระหว่างพรรคของทหารอำมาตย์ที่ทำลายประชาธิปไตยและเข่นฆ่าประชาชน กับพรรคที่ใกล้เคียงที่สุดกับจุดยืนคนเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตย

การเลือกตั้งครั้งนี้คือระหว่างการเห็นชอบกับเผด็จการมือเปื้อนเลือด กับการสนับสนุนประชาธิปไตย ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะมีรายละเอียดของนโยบายอย่างไร

เราจะไม่รณรงค์ให้คนเลือกพรรคเพื่อไทยด้วยสาเหตุอื่นเลย

เราไม่ได้รณรงค์ให้คนไปเลือกพรรคเพื่อไทยเพราะอยากได้นายกผู้หญิง

ในประเด็นการมีนายกเป็นผู้หญิง ถ้ามีก็ดี จะได้ส่งสัญญาณว่าผู้หญิงก็เป็นผู้นำได้ แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญเท่ากับคุณสมบัติและจุดยืนทางการเมืองของผู้นำ โดยเฉพาะถ้าผู้นำสตรีไม่มีการเมืองก้าวหน้าเลย ลองนึกถึง รสนา โตสิตระกูล ก็ได้ ผู้หญิงคนนี้เป็นเอ็นจีโออำมาตย์ เห็นด้วยกับรัฐประหาร ๑๙ กันยา เห็นด้วยกับการฆ่าเสื้อแดง และเห็นด้วยกับการใช้ 112 ปิดปากประชาชน ถ้าคนนี้เสนอตัวเป็นนายก เราไปเลือกหมาตัวผู้ที่ไหนแทนจะดีกว่า

ในเรื่องนายกผู้หญิง จริงๆ แล้วถ้า ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หรือ จตุพร พรหมพันธุ์ เป็นคนสมัครแข่งกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เราน่าจะไปเลือก ณัฐวุฒิ หรือ จตุพร แทน ทั้งๆ ที่ทั้งสามคนไม่ใช่นักสังคมนิยม เพราะอย่างน้อย ณัฐวุฒิ หรือ จตุพร ได้พิสูจน์ตนเองในการนำมวลชนจำนวนมากในขบวนการทางสังคมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย

เราไม่ได้รณรงค์ให้คนไปเลือกพรรคเพื่อไทยเพราะเราหวังว่าถ้ามีรัฐบาลเพื่อไทยเราจะมีประชาธิปไตยสมบูรณ์และเราจะเข้าสู่ยุคใหม่

ปกติแล้วในระบอบประชาธิปไตยทุนนิยม เช่นในอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือ เยอรมัน การครองที่นั่งส่วนใหญ่ในรัฐสภา และการตั้งรัฐบาล ไม่ได้นำไปสู่การคุมอำนาจรัฐ เพรารัฐประกอบไปด้วยระบบข้าราชการ ศาล ทหาร ฯลฯ ซึ่งเป็นอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ และอำนาจเศรษฐกิจของนายทุนใหญ่ ซึ่งไม่เคยมาจากการเลือกตั้ง ก็เป็นอำนาจทางการเมืองอีกประเภทหนึ่ง ดังนั้นการมีรัฐบาลพรรคสังคมนิยมที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้นำไปสู่การล้มทุนนิยมแต่อย่างใด

กรณีไทยเหมือนประชาธิปไตยทุนนิยมตะวันตก แต่แย่กว่านั้นด้วย เพราะกองทัพ ศาล และข้าราชการชั้นสูง พร้อมจะละเมิดกติกาหรือมารยาทประชาธิปไตยตลอด อันนี้เราเห็นในกรณีรัฐประหาร ๑๙ กันยา และการล้มรัฐบาลพรรคพลังประชาชน และการที่ฆาตกรมือเปื้อนเลือดในกองทัพไม่เคยถูกลงโทษ

ดังนั้น ถ้าไม่มีการจัดการกับอำนาจอันมิชอบธรรมของพวกนายพล หรือโครงสร้างทั้งหมดของอำมาตย์ ซึ่งรวมถึงศาล ข้าราชการชั้นสูงและองค์มนตรี และถ้าไม่มีการ “ออกแบบใหม่” บทบาทของสถาบันกษัตริย์ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะไม่มีอำนาจเปลี่ยนอะไรมาก

การปฏิวัติในตะวันออกกลางพิสูจน์ว่า อำนาจที่จะเปลี่ยนระบบได้ อยู่ที่มวลชน และอยู่ที่พลังชนชั้นกรรมาชีพในการนัดหยุดงาน ในกรณีอียิปต์มวลชนชุมนุมเป็นล้าน และคนงานนัดหยุดงานเป็นแสน ถ้าเราจะเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ เราต้องรณรงค์ให้คนเสื้อแดงเคลื่อนไหว และให้สหภาพแรงงานและกรรมาชีพไทยเคลื่อนไหวพร้อมกับคนเสื้อแดง และเราจะต้องทำสิ่งเหล่านี้ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถตั้งรัฐบาลได้หรือไม่

ภาระกิจของขบวนการเสื้อแดงไม่ได้จบที่การเลือกตั้ง

ภาระกิจของคนเสื้อแดงในการเคลื่อนไหว ไม่ได้จบที่การเลือกตั้งแต่อย่างใด การเลือกตั้งเป็นแค่สมรภูมิหนึ่งในหลายสมรภูมิที่เราต้องสู้ และเรายังต้องเคลื่อนไหวเพื่อปฏิรูปกองทัพ และระบบศาล อย่างถอนรากถอนโคน ต้องปลดนายพลมือเปื่อนเลือด และผู้พิพากษาสองมาตรฐาน ต้องตัดงบประมาณทหาร ต้องนำสื่อทหารมาอยู่ในมือพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ต้องมีระบบลูกขุนในการตัดสินคดี ต้องยกเลิกกฏหมาย 112 และกฏหมายเผด็จการทั้งหลายเช่นเรื่องคอมพิวเตอร์กับอินเตอร์เน็ด ต้องไม่มีการเซ็นเซอร์สื่อ ต้องมีการปฏิรูปการปกครองในภาคใต้เพื่อยุติสงคราม และทั้งหมดนี้เป็นแค่เรื่อง “การเมือง”

ประเด็นการเมืองอื่นๆ ที่เป็นภาระกิจสำคัญของคนเสื้อแดงคือ การรณรงค์ให้ปล่อยนักโทษการเมืองทุกคน และการนำ อภิสิทธิ์ สุเทพ อนุพงษ์ และประยุทธิ์ มาขึ้นศาลในข้อหาฆ่าประชาชน

ในเรื่อง “สังคมและเศรษฐกิจ” ชาวเสื้อแดงพิสูจน์มานานว่าคนชั้นบนมองเราว่าเป็นไพร่ ไม่ต่างจากผักปลา เราต้องเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นสังคมเท่าเทียม เราต้องสร้างรัฐสวัสดิการ ถ้วนหน้า ครบวงจร และเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้า สูงๆ จากคนรวยทุกคน โดยไม่มีข้อยกเว้น

ภาระกิจเหล่านี้ส่วนใหญ่ผู้นำพรรคเพื่อไทยคงไม่อยากทำ เราไม่ต้องหลงหลอกตนเองในเรื่องนี้ และถ้าเขาเกิดอยากทำ เขาก็จะไม่มีอำนาจทำถ้าไม่มีมวลชนออกมาเคลื่อนไหวนอกรัฐสภา มวลชนเสื้อแดงนั้นเอง

การที่การเลือกตั้งจะไม่แก้ปัญหา ไม่ได้หมายความว่าเราหันหลังให้มันได้ เพราะอย่างที่อธิบายไปแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้คือการรบกัน เพื่อช่วงชิงความชอบธรรม ระหว่างการเห็นชอบกับเผด็จการมือเปื้อนเลือด กับการรักประชาธิปไตย

ถ้าพรรคเพื่อไทยแพ้การเลือกตั้งจากการช่อโกงเล็กน้อยๆ อย่างเป็นระบบเรื่อยๆ มาตั้งแต่ ๑๙ กันยา ของฝ่ายอำมาตย์ คนเสื้อแดงจะหดหู่ชั่วคราว เราฟื้นตัวได้ แต่ที่ดีที่สุดคืออย่าให้มันเป็นไปตามนั้นแต่แรก ต้องรณรงค์ให้คนไปเลือกเพื่อไทย

ถ้าฝ่ายอำมาตย์หน้าด้านตามเคย และไม่ยอมรับผลของการเลือกตั้ง ในกรณีที่เพื่อไทยชนะ คนเสื้อแดงจะโกรธแค้น และเราต้องนำความโกรธแค้นนั้นมาใช้ในทางที่สร้างสรรค์ คือเพื่อเสริมสร้างพลังการเคลื่อนไหวต่อไป

การต่อสู้ที่ทำให้เราได้ประชาธิปไตยสมบูรณ์ในระบบทุนนิยม หรือแม้แต่รัฐสวัสดิการ เป็นการต่อสู้ที่สำคัญมาก และถ้าเราไม่สู้ตรงนี้เราจะสู้เพื่อความก้าวหน้าอื่นๆ ต่อไปไม่ได้ แต่เราต้องเข้าใจว่ามันเป็นแค่การ “ปฏิวัติทางการเมือง” ที่เปลี่ยนผู้มีอำนาจ มันไม่ใช่ “การปฏิวัติทางสังคม” ที่จะเปลี่ยนระบบ จากระบบกดขี่ขูดรีดของทุนนิยมที่เต็มไปด้วยวิกฤตและสงคราม ไปสู่ระบบสังคมนิยมอันเป็นประชาธิปไตยทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจพร้อมกัน

ดังนั้นเราไม่ได้เสนอว่าต้องหยุดอยู่แค่ขั้นตอนของทุนนิยมเลย แค่ดูสภาพสังคมในยุโรปตะวันตกตอนนี้ ที่มีการต่อสู้ทางชนชั้นอย่างดุเดือด รวมถึงการชุมนุมใหญ่และการนัดหยุดงาน เพราะฝ่ายนายทุนต้องการโยนภาระของวิกฤษเศรษฐกิจให้คนธรรมดา แล้วเราก็จะเข้าใจว่าทุนนิยมที่มีรัฐสวัสดิการก็ไม่เคยเพียงพอ

เราต้องการให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยคราวนี้ คราวหน้าอาจไม่อยากให้เลือก ถ้าเรามีพรรคสังคมนิยม แต่การไปเลือกพรรคเพื่อไทยครั้งนี้เป็นแค่สิ่งหนึ่งในหลายๆ สิ่งหรือกิจกรรมที่ เราเรียกร้องให้คนเสื้อแดงทำ

--
ใจ อึ๊งภากรณ์
+44(0)7817034432
http://redthaisocialist.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา