มหากาพย์การเมือง ชุด “เปิดห้องมืด ลับ ลวง พราง” ตอน 6
โดย สะอาด จันทร์ดี
ผมขอกราบเรียนว่าผมเขียนเรื่องนี้ ตามต้นเรื่องมหากาพย์การเมือง ชุด “เปิดห้องมืด ลับ ลวง พราง” เพื่อให้เกิดความมั่นคง ไมใช่เขียนทำลาย จึงขอให้ “ทุกสถาบัน” ที่กำลังจับจ้องคนเสื้อแดงว่าเป็นคนล้มเจ้านั้น ขอให้อ่านด้วยสติปัญญาอันบริสุทธิ์ แล้วจะเข้าใจขึ้นมาบ้างว่าปัญหา “ล้มเจ้า” เป็นอย่างไรกันแน่.. ?
ข้อเขียนในวันนี้ ชื่อเรื่องว่า “พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ กับ ความมั่นคงของสถาบัน ..?” โดยขอเขียนถึงพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ซึ่งก็ไม่มีความลับแต่อย่างใด แท้ที่จริง นี้คือบันทึกเปิดผนึก ที่มุ่งหมายจะให้ “ประธานองค์มนตรี” ได้อ่าน และได้พิจารณาอย่างพินิจพิเคราะห์ เพื่อจะได้เข้าให้ถึงข้อเท็จจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น บ้านเมืองจึงเต็มไปด้วยความขุ่นมัวขนาดนี้
จึงหวังเอาไว้ก่อนว่าพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จะสนใจต่อบันทึกฉบับนี้
ก่อนอื่น ผมขอกราบเรียนว่า ผมเคยเขียนบทความถึงพลเอกเปรมมาแล้วถึง ๒ ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๓ เขียนครั้งที่ ๑ ในคอลัมน์ “มองโลกในแง่ดี” หนังสือพิมพ์บ้านเมืองรายวัน เขียนครั้งที่ ๒ ในคอลัมน์ “แดงที่ราบสูง” นสพ. ไทยเร็ดนิวส์และครั้งนี้นำมาเขียนในเว็บของ “พีเพิ่ลแชนเนิ่ล ออน ไลน์”
ข้อเขียนแต่ละครั้ง ล้วนแต่ได้ไตร่ตรองเป็นแรมเดือน ถามตัวเองว่าเหมาะไหมที่จะเขียนถึงบุคคลของชาติระดับผู้ใกล้ชิดองค์พระประมุขของแผ่นดิน
ผมไตร่ตรองแล้วไตร่ตรองอีก เห็นว่าจำเป็นต้องเขียนเป็นครั้งที่ ๓ เพราะว่าบ้านเมืองตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้าย ถ้าขืนปล่อยไว้ไม่มีใครนำเอามาเตือนสติก็จะไม่มีใครรู้ความจริงว่าใครกันแน่คือตัวการล้มเจ้า (ตัวจริง) ? แล้วที่กำลังกล่าวหาคนเสื้อแดงอยู่นี้...เป็นเกิดมาจากอะไร ?!
ขอรับ... เพื่อให้เข้าใจง่าย สาระไม่ตกหล่น ผมขอกล่าวว่าพระมหากษัตริย์นั้นทรงเป็น “หัวหน้าของชนเผ่าไทย” มาตั้งแต่เริ่มตั้งชาติ จะเริ่มตั้งแต่พระเจ้ามั่งตี่ หรือก่อนหน้านั้นกี่พันปีก็ตาม หัวหน้าของคนไทยก็คือพระมหากษัตริย์ ซึ่งได้ครองความเป็นหัวหน้าด้วยวิธีการ “สืบสันตติวงศ์” (โดยการรับมรดกตกทอด) มาจนถึงปัจจุบัน โดยไม่เคยมีผู้ใดได้มาเป็นหัวหน้าของประเทศโดยการเลือกตั้งแม้แต่คนเดียว
ในอดีตอันยาวนาน พระมหากษัตริย์กับประชาชน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันประหนึ่งพ่อกับลูก ประวัติศาสตร์ของพระมหากษัตริย์ไทยมีความยิ่งใหญ่ในแหลมทอง แม้ว่าจะมีการ “ยื้อแย่ง” อำนาจกันเอง หักหลังกันเองก็ตาม แต่เมื่อได้เป็นกษัตริย์แล้วก็จะสร้างบ้านแปงเมืองสุดความสามารถ
คนไทยภาคภูมิใจในองค์พระมหากษัตริย์อย่างสูงยิ่งโดยมีความเชื่อในหมู่คนไทยด้วยกันว่าประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้าครบทุกสิ่งทุกอย่างเช่นเดียวกับญี่ปุ่นและเกาหลีโดยไม่จำเป็นต้องเลือกตั้งประธานาธิบดี
ซึ่งสอดคล้องกับความรู้สึกในหัวใจของคนไทยไม่มีใครเรียกร้องหาประธานาธิบดี จะมีเพียงไม่กี่คนที่มีรสนิยมแบบตะวันตก อยากให้ประเทศชาติเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนผ่านจากสังคมกษัตริย์ ไปสู่สังคมเพรสซิเดนท์
คำว่ามีไม่กี่คนพวกนั้น รู้จักชื่อกันดีว่ามีใครบ้างซึ่งไม่จำเป็นต้องเอ่ยนาม
เพราะว่าคนพวกนั้นจะไม่มาสั่นคลอนสถาบันพระมหากษัตริย์ได้เลย
แล้วเหตุไร...วันนี้สถาบันอันสูงส่งถึงได้สั่นคลอนอย่างหนัก สั่นคลอนขนาดทหารตบเท้าพรึบ ประกาศออกมาปกป้องสถาบัน และยังข่มขู่อีกว่าอย่าทำให้ทหารต้องจับปืน ?! ดังที่ได้ตกเป็นข่าวระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๕ เมษายน ๒๕๕๔ !
ผมอยากให้พลเอกเปรม มีความเข้าใจเรื่องห้องมืด “ลับ ลวง พราง” ที่เป็นต้นเหตุทำให้สถาบันกษัตริย์สั่นคลอนขึ้นมาทั้งๆที่ไม่น่าจะสั่นคลอนเลย...ผมเชื่อว่าพลเอกเปรม คงจะอยากรู้ว่า “ตัวต้นเหตุนั้น” ได้แก่อะไร ?
ผมขอแฉ (โดยย่อ) ให้ทราบ ดังนี้
ขอเรียนว่าผมมีความรู้ได้...โดยการกราบถามอาจารย์ประเสริฐ ทรัพย์สุนทรว่า “ในประเทศไทยมีคนคิดจะล้มเจ้าไหม...?” อาจารย์ประเสริฐตอบว่า “มีมากกว่าคิด เขาลงมือทำแล้ว.” คำตอบของอาจารย์ประเสริฐ ทำให้ผมถึงกับมีอาการทึ่งและงง ซึ่งมีคุณวีระ ถนอมเลี้ยง นั่งอยู่ด้วย และยังมีคุณบุญเที่ยง เจริญพิทักษ์ (พขร.) อีกคนหนึ่งร่วมอยู่ตรงนั้น เราทั้งสามคนต่างพากันตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ
อาจารย์ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร พูดให้ฟังชัดถ้อยชัดชัดคำว่า “พวกที่ล้มเจ้ามีอยู่ ๔ กลุ่มใหญ่ (๑) กระทรวงศึกษาธิการ (๒) สำนักพระราชวัง (๓) สำนักนายกรัฐมนตรี (๔) และไส้ศึกในสำนักงานหน่วยข่าวกรอง”
แล้วท่านก็แยกให้ฟังว่าพวกไส้ศึกปนกับพวกเกลียดเจ้าในกระทรวงศึกษาเล่นกลกับหลักสูตรประวัติศาสตร์ “จงใจไม่สร้างตำราที่เป็นคุณแก่สถาบันพระมหากษัตริย์” ไม่มีหลักสูตรสอนประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ในเชิงรุก ไม่ทำให้ฮึกเหิม และไม่ทำให้เกิดความภาคภูมิใจ นี้แหละคือการวางแผนล้มล้าง ทางความเชื่อ ความศรัทธาให้ค่อยๆถูกลืมเลือนหายไป
กระทรวงศึกษาธิการคือตัวทำลายที่ร้ายกาจมาก และแยบยลที่สุดที่จะทำให้เกิดความผันผวนภายในไม่เกิน ๕๐ ปี (ท่านบอกพวกเราเมื่อปี ๒๕๑๘)
คุณวีระ ถนอมเลี้ยง และคุณบุญเที่ยง เจริญพิทักษ์ ได้รับฟังคำบอกเล่าของอาจารย์ประเสริฐ ทรัพย์สุนทรถึงกับอึ้งไปเลย
ผมถามท่านอาจารย์เพิ่มเติมด้วยความอยากรู้ว่า “สำนักพระราชวัง เป็นอย่างไรครับอาจารย์ ?”
อาจารย์ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร ตอบว่า “สำนักพระราชวัง มีแต่พวกหัวเก่าคร่ำครึ” ไม่รู้จักโลกภายนอก ไม่เข้าใจความเปลี่ยนแปลงของสังคม อยู่กันแบบโบราณ ก้าวไม่ทันโลก โดยเฉพาะพวกที่เป็นองคมนตรีทั้งหลาย ล้วนแต่ไดโนเสาร์ทั้งนั้น การที่มัวแต่คร่ำครึนี้แหละ คือความล้มเหลวที่ร้ายแรงมากอยู่ไปเป็นภัยต่อสถาบัน
คุณบุญเที่ยง เจริญพิทักษ์ มีอาการตื่นเต้นกับคำอธิบายของอาจารย์ประเสริฐ จึงยกมือขึ้นไหว้ แล้วถามด้วยความเกรงใจว่า “แล้วพวกสำนักนายกเล่าครับ..?”
อาจารย์ประเสริฐเปิดเผยให้ฟังว่า ในสำนักนายกรัฐมนตรีนี้น่ากลัวมาก เพราะมันจะเต็มไปด้วย “ไส้ศึก” นานาประเภท โดยเฉพาะได้แก่ ไส้ศึกกลุ่มเดียวกับกระทรวงศึกษาธิการ ที่พากันทำงานเงียบๆคอยคุมเกม เพื่อจะให้บั่นทอนระบบการศึกษา ไม่ให้คนไทยก้าวหน้า ไม่ให้คนไทยฉลาด คนพวกนี้มาจาก “องค์กร” จัดตั้ง ทำงานเป็นระบบ คล้ายพวกจาระชน มีทั้ง ซีไอเอ เคจีบี และ “ไห้ไว่เฉียวหูต้า” ชื่อหลังนี้ผมไม่แน่ใจว่าจำมาถูกต้องหรือเปล่า ?
อย่าว่าแต่สถาบันพระมหากษัตริย์เลย ทุกสถาบันในประเทศไทย จะถูกพวกไส้ศึกแอบทำจารกรรมหามรุ่งหามค่ำ
แล้วหน่วยข่าวกรองเล่าครับ...เป็นอย่างไร ? ผมถามขึ้น
อาจารย์ประเสริฐตอบว่า “ตัวนี้ร้ายมากเช่นกัน” เขาจะรายงานแบบไหนก็ได้โดยได้ใช้ ศปก.(ศูนย์ปฏิบัติการ) มีทั้งสำนักงานข่าวกลาง และ กอ.รมน. เพื่อจะทำให้หน่วยเหนือหลงเชื่อในข้อมูล จะมีการ “บิดเบือน” ให้เกิดความเข้าใจผิด สุดท้ายก็จะปั้นข่าวกล่าวหาคนไทยด้วยกัน หาว่าคนนั้นเกลียดเจ้า คนนี้รักเจ้า จะมีการทำให้คนไทยขัดแย้งกันเองด้วยเรื่องหมิ่นเจ้า หรือเป็นที่โปรดปรานของเจ้า
คนที่รายงานข่าวที่ทำให้คนไทยเข้าใจผิดต่อกันและกัน นั้นแหละคือตัวการใหญ่ คนพวกนี้เป็นพวกกระบวนการล้มเจ้า ตนเองก็ถูกรายงานผิดๆมามากต่อมาก แต่ตนโชคดีเพราะได้เป็นที่ปรึกษา กอ. รมน. จึงได้รู้เยอะ
ท่านพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ขอรับ ผมนำเรื่องนี้มาเรียนให้ทราบก็เพราะว่าท่านรู้จักหน้าตาของคนที่ “ชี้หน้าด่ากราด พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร” ว่าจะล้มเจ้า ไม่ว่าจะเป็นนายเนวิน ชิดชอบ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ล้วนแต่เป็นคนที่ท่านรู้จักดีทั้งสิ้น
ผมอยากเรียนต่อไปว่า คนเหล่านี้มีความเคลื่อนไหวตรงตามตำราของอาจารย์ประเสริฐ ทรัพย์สุนทรทุกประการ ผมจึงเกิดอาการตาสว่างตั้งแต่ตอนที่สนธิ ลิ้มทองกุล ประกาศยกย่อง “คนเสื้อเหลือง”ว่าเป็นผู้จงรักภักดี โดยประกาศในตอนเย็นที่เวทีทำเนียบรัฐบาล เมื่อครั้งชุมนุมยาวเหยียด ๑๖๓ วัน
อีกคนได้แก่ “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ” รองนายกรัฐมนตรี ประกาศในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวหา พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร ในท่ามกลางการประชุม โดยมี นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาฯ
การกระทำของคนเหล่านั้น ก่อให้เกิดความบาดหมางระหว่างไพร่กับเจ้าอย่างไม่เคยมีมาก่อน ถึงขั้น “สั่งฆ่า ๑๐ เมษา ๑๙ พฤษภา/๕๓” ซึ่งเป็นการฆ่าโดยไม่มีใครมาห้ามเลย มันไม่เหมือนคราว พลเอกสุจินดา คราประยูร กับพลตรี จำลอง ศรีเมืองตีกัน
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จะจัดการกับความมั่นคงของสถาบันอย่างไร มิทราบ...?!
ที่มา : Pchannel Online
วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา