หากชีวิตของเราเปรียบดั่งต้นไม้
แม่ก็คือรากแก้วอันมั่นคง
คอยส่งกำลังบำรุง
ให้ลำต้นเติบใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขา
ผลิบานดอกใบออกผล
ให้เป็นต้นไม้ที่สมบูรณ์
บนโลกกว้าง.....หนทางยาวใกล ทุกก้าวที่มุ่งไปล้วนแล้วแต่มีที่มา
เราคงจะไม่ลืมว่า ก้าวที่เข้มแข็งมุ่งมั่นในวันนี้นั้น....คือก้าวที่เคยเตาะแตะ
ล้มลุกคลุกคลานมานับครั้งไม่ถ้วน
และยิ่งกว่านั้น...เราคงจะไม่ลืมว่า...มีสองมือของใครคนหนึ่ง คอยจับจูง
ให้เราหัดก้าวเดิน เสียงปรบมือที่คอยให้กำลังใจ ถ้อยคำปลอบโยนในยาม
ที่เราร้องไห้ ผู้ที่ทำให้เรามั่นใจได้ทุกครั้ง ด้วยวงแขนอบอุ่นที่โอบกอดเรา
อย่างทะนุถนอมเสมอ เราก้าวผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาเนิ่นนาน แต่ไม่เคย
ไกลเกินกว่าสายใยแห่งความรัก และความผูกพันจะเอื้อมถึง
คืนหนึ่งบนฟากฟ้าที่พราวพร่างด้วยหมู่ดาว
ยังจำได้ถึงนิทานก่อนนอนเรื่องแล้วเรื่องเล่า ที่เรารบเร้าขอฟังอีกอย่างไม่รู้เบื่อ
กับน้ำเสียงอันอ่อนโยนที่เจือด้วยความปราถนาดีในโลกนี้.....จะไม่มีใครทุ่มเทสิ่ง
ดี ๆ ให้กับชีวิตของเราได้เทียบเท่ากับแม่......คงไม่มีอีกแล้ว
ก้าวแรกที่เริ่มออกสู่โลกกว้าง คือวันแรกที่เราเริ่มไปโรงเรียน
สองมือเล็ก ๆ ของเราโอบคอแม่เหนียวแน่น จนยากที่จะมีใครมาพรากเราไปจาก
แม่ได้ ด้วยเสียงร้องไห้จ้าและน้ำตาที่นองหน้า บอกให้แม่รู้ว่า....เราหวาดหวั่นต่อ
โลกกว้างใบนี้เพียงใด
แต่สุดท้าย.....แม่ก็ปล่อยให้เราได้เรียนรู้ถึงการอยู่ห่างจากอกแม่จนได้
เนื่องจากเพราะแม่รู้ดีว่า...วันหนึ่งข้างหน้าเราต้องก้าวออกไปเผชิญโลกกว้าง
เพียงลำพัง แม่รู้ดีว่า.....ไม่มีแม่คนใดสามารถที่จะอยู่เคียงข้างลูกไปได้ตลอดชีวิต
เมื่อยิ่งเติบโตขึ้น กลับเป็นเราที่ปล่อยให้แม่เป็นฝ่ายรอคอยบ้าง
มีกี่คืนที่แม่ยากจะข่มตาให้หลับใหล เพราะความห่วงใยลูก มีกี่วันที่แม่เฝ้ารอแล้ว
รอเล่า จดจ่อถึงลูกผู้แรมทางไกล........เพื่อไปเรียนรู้ชีวิต
เมื่อวันใดวันหนึ่งซึ่งเราพบกับบางปัญหา เรากลับหันหน้าเข้าหาคน
อื่น หรือเพื่อนเพื่อปรึกษากันเอง จนเรื่องบางเรื่องก็บานปลายจนยากแก้ไข เรา
เหมือนไม่ไว้วางใจแม่ ไม่เชื่อว่าแม่จะช่วยแก้ปัญหาที่มีอยู่นี้ได้ บางทีเราก็ประเมิน
แม่ต่ำกว่าความเป็นจริง
แม่มีทั้งประสบการณ์ ทั้งยังมีความรักและความปราถนาดี คนที่หัน
หน้าเข้าหาแม่ในยามมีอุปสรรคปัญหา จึงเป็นคนที่คิดถูกที่สุด....โชคดีที่สุด เพราะ
แม่มักมีทางออกที่ดีให้กับเราเสมอ
ขณะที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี ฤดูกาลกำลังผ่านพ้นไป อาจจะมีใคร
สักคน ก้าวผ่านวันคืนอันมีค่าไปอย่างน่าเสียดาย โดยหลงลืมที่จะใส่ใจดูแลแม่
ไม่ใยดีต่อความรู้สึกที่แม่มอบให้
เขาคงไม่รู้หรอกว่า.....ช่วงเวลาที่ชีวิตจะได้อยู่ร่วมกับแม่ ได้ตอบ
แทนความดีของแม่นั้น น้อยลงไปทุกขณะตามจังหวะของเวลาที่ผ่านไปเราจึงอยาก
จะบอกกับทุกคนว่า...อย่าปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างสายเกินไปเลยนะ
"รักแม่เสมอ" ฉันบอกรักแม่ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไรในชีวิต แต่ถึงแม้
จะไม่บอก แม่ก็เข้าใจถึงความรู้สึกที่ฉันมีให้แม่ จากการดำเนินชีวิตไปในหนทางที่ดีงาม การเป็นคนดี เป็นการบอก "รัก แม่ที่ดีที่สุด แม่เคยบอกฉันไว้อย่างนั้น
"ความรักของแม่" จึงยิ่งใหญ่นัก เกินกว่ารักอื่นใดจะมาบดบังได้
ฉันจึงสามารถบอกกับตัวเอง และคนทั้งโลกได้อย่างมั่นใจว่า....
"ช่างเป็นโชคอันประเสริฐแท้ ที่ได้เกิดมาเป็นลูกของแม่"
......รักแม่เสมอ......
".... รักแม่ให้มาก ๆ เถิด ขณะที่แม่ยังอยู่ให้เรารัก...."
แม่ก็คือรากแก้วอันมั่นคง
คอยส่งกำลังบำรุง
ให้ลำต้นเติบใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขา
ผลิบานดอกใบออกผล
ให้เป็นต้นไม้ที่สมบูรณ์
บนโลกกว้าง.....หนทางยาวใกล ทุกก้าวที่มุ่งไปล้วนแล้วแต่มีที่มา
เราคงจะไม่ลืมว่า ก้าวที่เข้มแข็งมุ่งมั่นในวันนี้นั้น....คือก้าวที่เคยเตาะแตะ
ล้มลุกคลุกคลานมานับครั้งไม่ถ้วน
และยิ่งกว่านั้น...เราคงจะไม่ลืมว่า...มีสองมือของใครคนหนึ่ง คอยจับจูง
ให้เราหัดก้าวเดิน เสียงปรบมือที่คอยให้กำลังใจ ถ้อยคำปลอบโยนในยาม
ที่เราร้องไห้ ผู้ที่ทำให้เรามั่นใจได้ทุกครั้ง ด้วยวงแขนอบอุ่นที่โอบกอดเรา
อย่างทะนุถนอมเสมอ เราก้าวผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาเนิ่นนาน แต่ไม่เคย
ไกลเกินกว่าสายใยแห่งความรัก และความผูกพันจะเอื้อมถึง
คืนหนึ่งบนฟากฟ้าที่พราวพร่างด้วยหมู่ดาว
ยังจำได้ถึงนิทานก่อนนอนเรื่องแล้วเรื่องเล่า ที่เรารบเร้าขอฟังอีกอย่างไม่รู้เบื่อ
กับน้ำเสียงอันอ่อนโยนที่เจือด้วยความปราถนาดีในโลกนี้.....จะไม่มีใครทุ่มเทสิ่ง
ดี ๆ ให้กับชีวิตของเราได้เทียบเท่ากับแม่......คงไม่มีอีกแล้ว
ก้าวแรกที่เริ่มออกสู่โลกกว้าง คือวันแรกที่เราเริ่มไปโรงเรียน
สองมือเล็ก ๆ ของเราโอบคอแม่เหนียวแน่น จนยากที่จะมีใครมาพรากเราไปจาก
แม่ได้ ด้วยเสียงร้องไห้จ้าและน้ำตาที่นองหน้า บอกให้แม่รู้ว่า....เราหวาดหวั่นต่อ
โลกกว้างใบนี้เพียงใด
แต่สุดท้าย.....แม่ก็ปล่อยให้เราได้เรียนรู้ถึงการอยู่ห่างจากอกแม่จนได้
เนื่องจากเพราะแม่รู้ดีว่า...วันหนึ่งข้างหน้าเราต้องก้าวออกไปเผชิญโลกกว้าง
เพียงลำพัง แม่รู้ดีว่า.....ไม่มีแม่คนใดสามารถที่จะอยู่เคียงข้างลูกไปได้ตลอดชีวิต
เมื่อยิ่งเติบโตขึ้น กลับเป็นเราที่ปล่อยให้แม่เป็นฝ่ายรอคอยบ้าง
มีกี่คืนที่แม่ยากจะข่มตาให้หลับใหล เพราะความห่วงใยลูก มีกี่วันที่แม่เฝ้ารอแล้ว
รอเล่า จดจ่อถึงลูกผู้แรมทางไกล........เพื่อไปเรียนรู้ชีวิต
เมื่อวันใดวันหนึ่งซึ่งเราพบกับบางปัญหา เรากลับหันหน้าเข้าหาคน
อื่น หรือเพื่อนเพื่อปรึกษากันเอง จนเรื่องบางเรื่องก็บานปลายจนยากแก้ไข เรา
เหมือนไม่ไว้วางใจแม่ ไม่เชื่อว่าแม่จะช่วยแก้ปัญหาที่มีอยู่นี้ได้ บางทีเราก็ประเมิน
แม่ต่ำกว่าความเป็นจริง
แม่มีทั้งประสบการณ์ ทั้งยังมีความรักและความปราถนาดี คนที่หัน
หน้าเข้าหาแม่ในยามมีอุปสรรคปัญหา จึงเป็นคนที่คิดถูกที่สุด....โชคดีที่สุด เพราะ
แม่มักมีทางออกที่ดีให้กับเราเสมอ
ขณะที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี ฤดูกาลกำลังผ่านพ้นไป อาจจะมีใคร
สักคน ก้าวผ่านวันคืนอันมีค่าไปอย่างน่าเสียดาย โดยหลงลืมที่จะใส่ใจดูแลแม่
ไม่ใยดีต่อความรู้สึกที่แม่มอบให้
เขาคงไม่รู้หรอกว่า.....ช่วงเวลาที่ชีวิตจะได้อยู่ร่วมกับแม่ ได้ตอบ
แทนความดีของแม่นั้น น้อยลงไปทุกขณะตามจังหวะของเวลาที่ผ่านไปเราจึงอยาก
จะบอกกับทุกคนว่า...อย่าปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างสายเกินไปเลยนะ
"รักแม่เสมอ" ฉันบอกรักแม่ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไรในชีวิต แต่ถึงแม้
จะไม่บอก แม่ก็เข้าใจถึงความรู้สึกที่ฉันมีให้แม่ จากการดำเนินชีวิตไปในหนทางที่ดีงาม การเป็นคนดี เป็นการบอก "รัก แม่ที่ดีที่สุด แม่เคยบอกฉันไว้อย่างนั้น
"ความรักของแม่" จึงยิ่งใหญ่นัก เกินกว่ารักอื่นใดจะมาบดบังได้
ฉันจึงสามารถบอกกับตัวเอง และคนทั้งโลกได้อย่างมั่นใจว่า....
"ช่างเป็นโชคอันประเสริฐแท้ ที่ได้เกิดมาเป็นลูกของแม่"
......รักแม่เสมอ......
".... รักแม่ให้มาก ๆ เถิด ขณะที่แม่ยังอยู่ให้เรารัก...."
แม่... เป็น ครู ของชีวิตลูก ความเมตตา กรุณาที่แม่...มีต่อลูก นั้นยิ่งใหญ่ที่สุดต่อการมีชีวิตของลูก แม่... มองลูกในแง่ดีเสมอ ไม่มีอคติต่อลูก ดุ ด่า ว่าลูก ก็โดยสุจริตใจ ไม่เคยคิดให้ร้าย ทำลายลูก ไม่จินตนาการเอาเองว่า ลูก ชั่ว เลวอย่างนั้น อย่างนี้ ด้วยเมตตาที่แม่...มีให้แก่ลูก ย่อมนำมาซึ่งความสงบสุข ในครอบครัว หากองค์กรใด สถาบันใด เอาเยี่ยงอย่างแนวคิดวิธีการที่แม่...ปกครองลูกได้ เชื่อได้เลยว่ามีแต่ความเจริญก้าวหน้า
ตอบลบ