เครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม เลขทะเบียน ๘๖๙ สภาพัฒนาการเมือง สถาบันพระปกเกล้า

อุดมการณ์สถานักพัฒนาเพื่อประชาธิปไตย

เรา...มั่นใจว่า
ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา
ประเทศไทย เป็นของเราทุกคน
เรา ต้องร่วมกันสร้างชาติไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์  พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

เมื่อชาติเล็กกว่า‘อำนาจ-ผลประโยชน์

ยุทธวิธีกำหนด ‘เหตุ’ ให้เกิด ‘ผล’

ฟันธงตรงเป้า เข้าประเด็น การเมืองในปี พ.ศ. 2554 จะมีคลื่นรบกวน ไม่ราบเรียบอย่างที่ใครหลายคนคิดหรือฝันอยากให้เป็น ที่เป็นเช่นนี้เพราะมีปัจจัยเรื่อง “เวลา” มาบีบบังคับให้ “ใคร” บางคน และคน “บางกลุ่ม” ต้องตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อรักษาอำนาจเอาไว้กับตัวเองและกลุ่มของ ตัวเอง

แต่จะลงมือทำอะไร เมื่อไร ต้องรอ “เวลา” ที่เหมาะสม
และระหว่างรอเวลาก็สร้างเรื่องปูทางเอาไว้เพื่อความชอบธรรมในยาม “ลงมือ”

นี่ไม่ใช่จิตนาการ แต่เป็นการประเมิน ประมวลจากข่าวที่เกิดขึ้นรายวัน ทั้งข่าวที่ “เปิดเผย” และข่าวที่ “ปิดลับ” หรือแม้แต่ข่าวที่จงใจ “ปล่อย” ออกมาเพื่อโยนก้อนหินถามทาง

หากพลิกดูปฏิทินทางการเมืองตามระบบ ตามระบอบ แน่ว่าภายในสิ้นปีนี้จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เพราะรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะหมดวาระการทำงานลงในวันที่ 22 ธันวาคม

นายอภิสิทธิ์พูดตลอดเวลาว่าไม่อยู่ครบเทอม ยังไงก็ต้องยุบสภาก่อน ส่วนจะก่อนกี่วันไม่ได้คอนเฟิร์ม อาจจะเดือนสองเดือน หรือแค่วันสองวันก่อนหมดวาระก็ได้

จับไต๋นักเลือกตั้งแล้วยังไงก็อยากลงสนามและพยายามให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เพราะอย่างน้อยก็มีสนามให้เล่น

อย่างไรก็ตาม ไม่ควรลืมความเป็นจริงของสังคมไทยไปว่าประเทศนี้มีลักษณะพิเศษอยู่อย่าง หนึ่งคือมีอำนาจซ้อนอำนาจและรัฐซ้อนรัฐอยู่ การจะได้เลือกตั้งหรือไม่จึงไม่ได้อยู่แค่การตัดสินใจยุบหรือไม่ยุบสภาของ นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว

การจะได้เลือกตั้งหรือไม่ยังอยู่กับความพึงพอใจของ “ใคร” บางคน และคน “บางกลุ่ม” ด้วย

ในซีกของนักการเมืองวันนี้ได้ปรับเข้าสู่โหมดเลือกตั้งกันเต็มตัวแล้ว แต่ในซีกของอีกฝ่ายยังไม่แน่ใจว่าหากปล่อยให้มีการเลือกตั้งจะยังคงรักษาฐาน อำนาจของตัวเองเอาไว้ต่อไปได้หรือไม่

อำนาจในมือที่มีอยู่ร้อยจะยังเต็มร้อยหรือไม่ หากไม่แน่ใจก็ไม่อยากเสี่ยงให้มีการเลือกตั้งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออย่างนี้

หากจะปล่อยให้มีการเลือกตั้งก็ต้องมั่นใจว่าฝ่ายที่ถูกประทับตราให้ว่า เป็นศัตรู เป็นฝ่ายตรงข้าม ต้องอ่อนแรงอย่างถึงที่สุดก่อน ต้องจับมัดตราสังข์ มัดมือมัดเท้าให้แน่นก่อนปล่อยลงสู่สนาม เพื่อประกันความมั่นใจว่าคนของตัวเอง ฝ่ายของตัวเองจะชนะ

ไม่แปลกที่คนในพรรคเพื่อไทยเห็นตรงกันว่ากำลังอยู่ในพื้นที่ “อันตราย” ถูกจ้องเด็ดแขนเด็ดขา และยอมรับกันว่าหากมีเลือกตั้งแล้วไม่ได้เสียงเกินครึ่งหนึ่งของสภาคือ 250 เสียง (ตามรัฐธรรมนูญที่จะแก้ไขใหม่) ก็อย่าหวังมีโอกาสได้ตั้งรัฐบาล แม้จะได้ในระดับ 180-190 หรือทะลุถึง 200 เสียงก็ตาม เพราะพรรคเล็กพรรคน้อยจะถูกอำนาจพิเศษกวาดต้อนเอาไปอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งรัฐบาลใหม่แน่นอน

นี่คือปัจจัยที่ทำให้คนเพื่อไทยยังรวมกลุ่มกันเหนียวแน่น แม้จะมีความแตกแยกทางความคิดและวิธีการเพื่อนำไปสู่ชัยชนะกันอยู่ค่อนข้างมาก

การรวมกลุ่มกันของคนพรรคเพื่อไทยและความหนาแน่นของคนเสื้อแดงคือปัจจัยหลักที่กลุ่มอำนาจยังไม่ค่อยวางใจปล่อยให้มีการเลือกตั้ง

การรักษาอำนาจเอาไว้ในมือแม้จะเป็นเรื่องใหญ่แต่ไม่จำเป็นต้องเร่งทำ ยังคงมีเวลาเหลือเฟือที่จะเลี้ยงกระแสปูทางเอาไว้

ความน่าจะเป็นของการเมืองในระยะเวลาข้างหน้าคือการปูทางทำให้เกิดความ วุ่นวายขึ้นในประเทศ เพื่อใช้ “อำนาจพิเศษ” เข้ามาควบคุม ซึ่งเป็นไปได้ทั้งวุ่นวายและเข้ามาควบคุมก่อนการเลือกตั้ง และวุ่นวายเข้ามาควบคุมระหว่างที่จะมีการเลือกตั้งหรือหลังการเลือกตั้ง

การใช้ “อำนาจพิเศษ” เข้ามาควบคุมนั้นเกิดขึ้นแน่นอน แต่วิธีการจะแตกต่างกันไปตามแต่เงื่อนเวลาและปัจจัยของเหตุการณ์ และสถานการณ์ในตอนนั้น

ถ้าวุ่นวายก่อนการเลือกตั้งหรือระหว่างจะมีการเลือกตั้ง แนวทางการยึดอำนาจมาไว้ในมือคือวิธีการที่เหมาะสม

ถ้าวุ่นวายหลังการเลือกตั้งไปแล้ว แนวทางการบีบให้ตั้งรัฐบาลที่ตัวเองต้องการ หรือบีบให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ รัฐบาลเพื่อชาติ เอาคนกลางมานั่งบริหาร เป็นวิธีการที่เหมาะสม

7 คนไทยที่เดินไปให้เขมรจับไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือเป็นเรื่องพลัดหลงเลี้ยวผิดอย่างที่พยายามอธิบายในเบื้องหน้า

การยื่นถวายฎีกาของเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ และการเดินไปให้ตำรวจจับของนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ กับนายสมบูรณ์ ทองบุราณ ก็มิใช่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่เป็นเรื่องของการกำหนด “เหตุ” เพื่อให้เกิด “ผล”

ถ้าเป็นในวงการตลกเขาเรียกว่า “ปู” มาให้ “ตบ”

ฉะนั้นที่พูดกันว่าการยึดอำนาจ การใช้อำนาจพิเศษแทรกแซงทุกระบบ ทุกองค์กรเป็นไปไม่ได้เพราะจะทำให้ประเทศชาติเสียหายและไม่เป็นที่ยอมรับจาก นานาชาตินั้น

เรื่องนี้ลืมไปได้เลย เพราะถึงประเทศชาติจะเสียหายอย่างไร แต่ฝ่ายที่ต้องการรักษาอำนาจไว้ในมือไม่ได้เสียหายด้วย

แต่การปล่อยให้เงินและอำนาจหลุดจากมือต่างหากคือความเสียหาย

เชื่อขนมกินได้เลย เพราะเมื่อ “ปู” กันมาขนาดนี้แล้วยังไงก็ต้อง “ตบ” ชัวร์

ที่มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 6 ฉบับ 295 วันที่ 22-28 มกราคม พ.ศ. 2554 หน้า 5 คอลัมน์ จับกระแสการเมือง โดย ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา