เครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม เลขทะเบียน ๘๖๙ สภาพัฒนาการเมือง สถาบันพระปกเกล้า

อุดมการณ์สถานักพัฒนาเพื่อประชาธิปไตย

เรา...มั่นใจว่า
ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา
ประเทศไทย เป็นของเราทุกคน
เรา ต้องร่วมกันสร้างชาติไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์  พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

"ปฏิรูปกองทัพ - ทหารต้องจงรักภักดีต่อประชาชน"

แถลงการณ์ โดย
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)
วันที่ 25 ม.ค. 2554

นับตั้งแต่คำปฏิญาณต่อธงชัย เฉลิมพล ในอันที่จะรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ถูกทำลายลงด้วยการรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 คุณค่าและความศักดิ์สิทธิ์ของคำปฏิญาณจากเหล่าทหารในกองทัพไทย ก็ไม่อาจนับเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือได้อีกต่อไป หลักการคุณค่าเสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ, รัฐธรรมนูญที่ผ่านการลงมติของปวงชน, และระบอบประชาธิปไตยที่อนุญาตให้มีกษัตริย์เป็นประมุขอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ อาจเป็นสิ่งที่ทหารในกองทัพไม่อาจเข้าใจได้โดยแท้จริง การให้คำปฏิญาณจึงล้วนแต่เป็นเรื่องเชิงพิธีการ ที่ปราศจากความหวงแหนที่จะพิทักษ์ไว้ซึ่งความจงรักภักดีต่อประชาชนทั้งหลาย ผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยโดยแท้จริงในประเทศนี้ ทั้งยังเป็นหนึ่งในสดมภ์หลักทั้ง 4 ของกองทัพไทย ตามคำขวัญที่กล่าวว่า “เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน”

หรือแท้จริงแล้ว คำว่า “ประชาชน” และตัวตนของ “ประชาชน” จะไม่เคยมีพื้นที่อยู่จริง ในความทรงจำของเหล่าทหาร สิ่งที่พวกเขารู้จักอาจเป็นเพียงอริราชศัตรูที่ต้องทำลายล้างให้หมดสิ้น การเรียกร้องประชาธิปไตยของประชาชนเป็นสิ่งแปลกปลอมของระบอบจารีตนิยมอำนาจนิยมที่มีเครือข่ายล้าหลังของอำมาตยาธิปไตยครอบงำอยู่ กองทัพเป็นเพียงเครื่องมือรักษาเสถียรภาพของผู้นำจารีตนิยมอำนาจนิยม ที่ไม่รู้จักคำว่าประชาธิปไตย และใช้มันเป็นเพียงเครื่องมือพ่วงท้าย หรือต่อไว้ข้างหน้า ปกปิดความเป็นเผด็จการแอบแฝงของตนเอาไว้

ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.), สหพันธ์นิสิตนักศึกษาอีสาน (สนนอ.) และองค์กรนิสิตนักศึกษาที่เป็นสมาชิกทั่วประเทศ จึงขอแสดงจุดยืนเพื่อการปฏิรูปกองทัพไทย จากการเป็นเครื่องมือของเครือข่ายจารีตนิยมอำนาจนิยม เพื่อใช้ในการปราบปรามประชาชน รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการปลุกกระแสชาตินิยมอย่างล้าหลัง เพื่อสร้างปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้เกิดความร้าวฉาน รวมถึงทั้งอาจนำไปสู่การละเมิดคำปฏิญาณครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยการรัฐประหารเพื่อรักษาระบอบเผด็จการจารีตนิยมอำนาจนิยมแอบแฝง ที่มีกองทัพเป็นผู้คุ้มชูเสถียรภาพของมันเอาไว้, ดังนั้น, ท้ายที่สุด เราจึงขอยื่นข้อเสนอให้มีการปฏิรูปกองทัพดังต่อไปนี้

1.) กองทัพต้องมีจุดเกาะเกี่ยวเชื่อมโยงกับประชาชน การคัดสรรผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในกองทัพต้องมาจากการสรรหาของสภาผู้แทนราษฎร และคณะรัฐมนตรี ไม่ใช่โดยคณะกรรมาธิการของกองทัพ หรือบุคคลผู้มีบารมีนอกกองทัพ ซึ่งมีอำนาจในการตัดสิน ปรับเปลี่ยนรายชื่อการโยกย้ายทหารได้ อย่างที่เคยเป็นมาในอดีต

2.) ระบบการศึกษาของทหารต้องปลูกฝังให้เห็นคุณค่าในการพิทักษ์สิทธิ เสรีภาพของประชาชนไว้เป็นอันดับหนึ่ง และส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในกองทัพ ทหารสามารถขัดคำบังคับบัญชาได้ หากคำสั่งนั้นเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ ละเมิดความเป็นมนุษย์ และละเมิดสามัญสำนึกของทหารผู้ใต้บังคับบัญชา

หากกองทัพไทยสามารถปฏิรูปตามแนวทางข้างต้นได้ ย่อมเป็นการออกห่างจากวงจรอุบาทว์ และก้าวสู่การเป็นทหารอาชีพที่จงรักภักดีต่อประชาชนในท้ายที่สุด

25 มกราคม 2554 เนื่องในอดีตวันกองทัพไทย,
“ปฏิรูปกองทัพ - ทหารต้องจงรักภักดีต่อประชาชน”
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) และองค์กรสมาชิก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา