เครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม เลขทะเบียน ๘๖๙ สภาพัฒนาการเมือง สถาบันพระปกเกล้า

อุดมการณ์สถานักพัฒนาเพื่อประชาธิปไตย

เรา...มั่นใจว่า
ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา
ประเทศไทย เป็นของเราทุกคน
เรา ต้องร่วมกันสร้างชาติไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์  พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

โรงงานผลิตภาษา (แห่งชาติ) ของราษฎรอาวุโส.!!!

ได้อ่านบทความล่าสุด – โครงการ “ทำแผนที่คน” (Human Mapping)[1] จาก “โรงงานผลิตภาษา (แห่งชาติ)” ของราษฎรอาวุโส แกเขียนอธิบายความว่า “...การ ทำแผนที่คนไทยทั้งประเทศก็จะไม่ยาก สามารถทำได้เสร็จภายใน 6 เดือน เรามีหมู่บ้าน ประมาณ 80,000 หมู่บ้าน เรามีมหาวิทยาลัยกว่า 100 แห่ง มีนักศึกษารวมกันหลายแสนคน สามารถส่งนักศึกษาไปทำแผนที่คนไทยได้ในทุกหมู่บ้าน”

“...ชาวบ้านนั้นจมปลักอยู่กับความต่ำต้อย ความไม่มีเกียรติ ความไม่มีคุณค่า เป็นคนไม่มีความรู้สมัยใหม่ ถูกดูถูกเสียจนดูถูกตัวเอง – ครั้นมีคนสมัยใหม่เช่นนักศึกษา หรือคนที่จบปริญญามานั่งฟัง มานั่งขุดความรู้ความชำนาญที่ฝังลึกอยู่ในตัวเรา – ตามปรกติชาวบ้านไม่ค่อยได้พูด ได้แต่ฟังคนอื่นที่มีอำนาจมากกว่า มีความรู้มากกว่า มีเงินมากกว่า”

“บัด นี้มีคนที่เคยสมมติว่าเหนือกว่า มานั่งฟังด้วยความเคารพ และเห็นคุณค่าในสิ่งที่เขารักเขาชอบเขาถนัด ที่มีอยู่ในตัวเขาจริงๆ เขาจึงมีความสุขขึ้นมาท่วมท้น ที่รู้สึกมีเกียรติ (เป็นครั้งแรกในชีวิต) รู้สึกภูมิใจในตัวเอง...”

“...ความ เห็นใจ และการอยากทำเพื่อเพื่อนมนุษย์ เป็นธรรมชาติที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ ทุกคน ที่ว่าทุกคนล้วนแต่มีเมล็ดพันธุ์แห่งความดีอยู่ในหัวใจ”

“ถ้ามีแต่มายาคติเข้ามาขวางกั้น เช่น ฐานะ อำนาจ กฎหมาย กฎ ระเบียบ เงิน รูปแบบ เมล็ดพันธุ์แห่งความดีไม่มีโอกาสได้งอกงาม”

“...ถ้า เราทำทุกพื้นที่ทั่วประเทศ คนไทยทุกคนจะกลายเป็นคนมีเกียรติมี ศักดิ์ศรีมีความมั่นใจในตัวเอง การเคารพศักดิ์ศรี และคุณค่าของคนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เป็นศีลธรรมพื้นฐานของสังคม...”

“เนื่อง จากความรู้ในตัวคนมีฐานอยู่ในวัฒนธรรม วัฒนธรรมคือวิถีชีวิตร่วมกัน จะทำให้การศึกษาเชื่อมกับวัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตร่วมกัน เมื่อใดการศึกษาเชื่อมกับชีวิต และการอยู่ร่วมกันจะเกิดเรื่องใหญ่มาก คือ เกิดการอภิวัฒน์ประเทศไทยทุกด้าน”

“...ก่อน คุณทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อ พ.ศ. 2554 ท่านคุยกับผมหลายครั้ง - ครั้งหนึ่ง ผมแนะนำเรื่องใหญ่ๆ ไป 4 เรื่องเรื่องหนึ่งคือการทำแผนที่คนไทย หรือ Human Mapping ตามที่กล่าวถึงนี้ ท่านเป็นคนปัญญาไวเข้าใจทันที แต่การเป็นนายกรัฐมนตรีก็คงทำให้ท่านยุ่งเกิน เลยไม่ได้ทำ - หวังว่านายกฯอภิสิทธิ์จะไม่ยุ่งเกิน!”



ผมชอบย่อหน้าสุดท้ายของราษฎรอาวุโส คนนี้จริง ๆ – นี้แหละที่เขาเรียกว่า “เขี้ยวจริง ๆ – เขี้ยวของจริง” ใครที่คิดจะทำ proposal ขอทุนทำงานวิจัย, ลองอ่านโครงการ “ทำแผนที่คน-อภิวัฒน์ประเทศไทย” ฉบับนี้เป็นตัวอย่าง (แต่ถ้าคิดจะไปของทุนจาก “สสส.” หรือ “สมัชชาปฏิรูป 600 ล้าน” ที่แกดูแลอยู่ – ถ้าคุณไม่ใช่ [NGO] สีเดียวกัน-ก็หมดสิทธิ์!!!)

ราษฎรอาวุโส-หัวหน้าโรงงานผลิตภาษา (แห่งชาติ) – ผู้ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป 600 ล้าน (คสป.), เป็นคณะกก.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) - ล่าสุดยังดูแลอีก 14 องค์กรที่อยู่ภายใต้ คสป. เช่น องค์กรปกครองท้องถิ่นเพื่อการปฏิรูป, สภาองค์กรชุมชน และสภาผู้นำชุมชนเพื่อการปฏิรูป (มีนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม เป็นประธาน,สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน-พอช.), เครือข่ายประชาคมเพื่อการปฏิรูป, เครือข่ายผู้ใช้แรงงานและคนจนเมืองเพื่อการปฏิรูป (อ.ณรงค์ฯ ดูแล), เครือข่ายพลังสตรีเพื่อการปฏิรูป, เครือข่ายพลังเยาวชนเพื่อการปฏิรูป, เครือข่ายผู้พิการเพื่อการปฏิรูป, เครือข่ายผู้ด้อยโอกาสเพื่อการปฏิรูป, เครือข่ายภาคธุรกิจกับการปฏิรูป, เครือข่ายอุดมศึกษาเพื่อการปฏิรูป, เครือข่ายศิลปินเพื่อการปฏิรูป (มีนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เป็นประธาน), คณะกก.จัดสรรทรัพยากรเพื่อความเป็นธรรม, คณะกก.ความยุติธรรมกับการปฏิรูป, คณะกก.การสื่อสารเพื่อการปฏิรูป [2] - - เยอะแยะจนน่าเวียนหัว.

แต่อย่าเพิ่งมึนงง เพราะนี้คือเรื่องของงบประมาณ, เงินทั้งนั้น - พรรคพวก (NGO) ของตัวเองทั้งนั้น ที่เกี่ยวข้อง (กับงบ-เงินเหล่านี้) !!!

เงิน 600 ล้าน ที่ได้มาเพื่อปฏิรูปประเทศ เพื่อคนไทยจะได้ปรองดองกัน มันแค่เรื่องจิ๊บ ๆ – ยังต้องใช้เงินอีกเป็น 1,000 ล้าน เพื่อให้คนฝ่ายหนึ่ง (คนสีเสื้อหนึ่ง) เอาเงินภาษีของผู้คนในประเทศ, ไปทำโครงการปฏิรูปประเทศ-ให้คนรักกันปรองดองกัน?

“ปรองดอง” เริ่มต้นที่ใครดี - ก็เริ่มต้นที่ตัวคุณนั่นแหละ – เริ่มต้นที่เงินงบประมาณ ที่คุณถืออยู่นั้นแหละ

“แค่คิดกลับกัน” คุณ ลองแบ่งปันเงินงบประมาณ ให้กับคนอีกสีเสื้อหนึ่ง, ให้เขาไปทำงานวิจัย, ให้เขาทำกิจกรรม, ให้เขาทำสื่อ, แล้วเอาผลงานที่ได้ มาเปรียบเทียบกับข้อมูล ที่มาจากอีกฝ่ายหนึ่ง – คุณก็จะเห็นภาพว่าจะปรองดองกันอย่างไร-ต่อไป?

แต่เรื่องแบบนี้ “หัวหน้าโรงงานผลิตภาษา” (แห่งชาติ) กลับคิดไม่เป็น.???

นอกจากตัวหัวหน้าโรงงานแล้ว ยังมี “ทีมงานอีกหลายคน” – อย่าให้เอ่ยชื่อเลย (แม้แต่ตัวหัวหน้า ผมยังไม่อยากเอ่ยชื่อ) พวกคุณจะประดิษฐ์คำพูดอะไรออกมาก็ได้, แต่ถ้ามันไม่ได้ออกมาจาก “หัวใจ” มันก็แค่ วิธีการทำมาหากินแบบหนึ่ง ก็เท่านั้นเอง.!!!

อ้างอิง
[1] http://www.prachatai3.info/journal/2011/02/33152
[2] http://community.isranews.org/politic/680-2010-07-29-10-10-02.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา