เปิดใจ "พล.อ.เตียบัน" รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา

จากเหตุการณ์การปะทะกัน ระหว่างกองกำลังทหารกัมพูชา-กองกำลังทหารไทย บริเวณทิศตะวันตกของภูมะเขือ ต.เสาธง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้พื้นที่พิพาทปราสาทพระวิหาร ซึ่งห่างจากวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระเพียง 3 กิโลเมตร จนเป็นเหตุให้ชาวบ้านและกำลังทหารทั้งสองฝ่ายมีทั้งเสียชีวิตและได้รับบาด เจ็บ

พล.อ.เตีย บัน รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เปิดใจกับ “คม ชัด ลึก” ว่าจะไปตีราคาหรืออธิบายไม่ได้ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเป็นอย่างไร

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ที่ฝั่งประเทศไทย ซึ่งดูเหมือนว่าประเทศไทยเตรียมที่จะประกาศสงครามกับประเทศกัมพูชาแล้ว โดยไทยพยายามบอกว่ากัมพูชารุกล้ำดินแดนของไทย

“กัมพูชาได้เตือนทหารไทยไปแล้วว่าอย่าได้ล่วงล้ำเข้ามายังดินแดนของ กัมพูชา แต่ทหารไทยก็ยังละเมิดเข้ามาดินแดนของกัมพูชา ทางกัมพูชาจึงต้องเปิดฉากยิงเพื่อปกป้องดินแดนของกัมพูชา และไม่ได้ทำอะไรเกินกว่าเหตุ เนื่องจากเราจะต้องรักษาดินแดนอธิปไตยของกัมพูชา และเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างกองกำลังทหารไทยกับกองกำลังทหารกัมพูชาเมื่อ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ทั้งสองฝ่ายได้ใช้อาวุธหนักหลายประเภท ทั้งจรวด ปืนกล ปืน ค.120 และปืนใหญ่ ตอบโต้กันไปมา ผมบอกไม่ได้ว่าจะมีตายหรือบาดเจ็บมากน้อยเท่าใด”

พล.อ.เตีย บัน กล่าวต่อว่า ขณะนี้สถานการณ์ภายในประเทศกัมพูชาและประเทศไทยไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เพราะต่างฝ่ายต่างก็จะต้องดูกันเอง แต่ก็อยากถามว่าตอนนี้ประเทศไทยมองประเทศกัมพูชาอย่างไร

ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมีความเป็นห่วงอย่างไร โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่ยาวนานมากกว่า 60 ปีนั้น จะมาถามแบบนี้ได้อย่างไร แต่ในฐานะที่ประเทศกัมพูชาที่เพิ่งมีเอกราช มีอธิปไตย และมาถูกกล่าวหาว่าเป็นแบบนั้นเป็นแบบนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่กัมพูชาถูกกระทำสารพัดสารพันที่ไม่ได้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง อยากถามว่าจะให้กัมพูชาทำแบบไหนในเมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ และกัมพูชาก็ไม่มีทางเลือกอื่น ทางกัมพูชาก็จำเป็นจะต้องใช้สิทธิ์ของตัวเองเท่านั้นที่มีอยู่

พล.อ.เตีย บัน บอกว่า ไม่สามารถอธิบายได้มากไปกว่านี้ว่าจะเกิดสงครามระหว่างไทย-กัมพูชาหรือไม่ โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่มีการวางกำลังทหารเผชิญหน้ากันของทั้งสองฝ่าย แต่ขณะนี้ตนบอกได้แต่เพียงว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเกิดจากอะไรกัน แน่ น่าจะรู้กันดี

ส่วนเรื่องที่จะห่วงหรือไม่ห่วงว่าสถานการณ์จะลุกลามบานปลายออกไปหรือ ไม่ อย่างไร คิดว่ามันเลยเรื่องนี้ไปแล้ว ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายมองว่าสื่อกัมพูชาพยายามยั่วยุให้ไทยกับกัมพูชาทำ สงครามกัน ทางรัฐบาลกัมพูชาจะมีการดูแลเรื่องนี้อย่างไรนั้น ไม่ต้องว่าสื่อกัมพูชาฝ่ายเดียวหรอก อยากให้ไปเปิดดูสื่อของไทยทั้งติง ทั้งต่อว่า ต่อต้านตลอด 24 ชั่วโมง

ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาตลอด เพราะถือเป็นเรื่องธรรมดาที่เราดูแลงานด้านความมั่นคง ก็จำเป็นจะต้องมีการพูดคุยกันตลอด เราพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดช่องว่างต่อกัน แต่บางครั้งก็จะมีขีดของมัน ซึ่งถือว่ามันเป็นเรื่องลำบาก แต่อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ทางทหารของทั้งสองประเทศยังดีอยู่เหมือนเดิม และยังสามารถพูดจากันได้ไม่มีอะไร

พล.อ.เตีย บันไม่ ยืนยันว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่เป็นอยู่ในเวลานี้จะเกิดสงครามหรือ ไม่ เพราะสงครามจะเกิดขึ้นได้ก็จะต้องเกิดจากทั้งสองฝ่าย จะให้ทำตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อคงไม่ได้ ทั้งนี้ คงไม่ต้องฝากอะไรไปถึงรัฐบาลไทย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างรัฐบาลไทยคงเข้าใจปัญหาทุกปัญหาอย่างดีแล้ว และเชื่อว่ารัฐบาลคงสามารถแก้ไขปัญหาภายในประเทศของเขาเองได้ แต่ลึกๆ คงไม่สามารถบอกอะไรได้ หรือไปวิเคราะห์อะไรได้

“ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาผมพยายามทำอย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้เกิดสงคราม ระหว่างไทยกับกัมพูชา แต่บางทีก็อาจจะเกินขีดความสามารถของผม และผมก็คงจะทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ ส่วนการหาทางออกเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งโดยการพัฒนาพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรร่วมกันนั้น เรื่องพวกนี้คงจะต้องมีการพูดคุยกันในเหตุในผล และความเหมาะสม ก็สามารถทำได้ แต่จะต้องคุยกันในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะร่วมแบบไหนก็จะต้องว่ากัน เพราะทุกอย่างมีสิทธิ์ในการจัดแจงได้เหมือนกัน”

ทีมข่าวความมั่นคง