เครือข่ายองค์กรภาคประชาสังคม เลขทะเบียน ๘๖๙ สภาพัฒนาการเมือง สถาบันพระปกเกล้า

อุดมการณ์สถานักพัฒนาเพื่อประชาธิปไตย

เรา...มั่นใจว่า
ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา
ประเทศไทย เป็นของเราทุกคน
เรา ต้องร่วมกันสร้างชาติไทย ให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ขอไว้อาลัยต่ออการจากไปของ ดร.พีรพันธ์  พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554

"ดาบอาญาสิทธิ์" เล่มใหม่ ของ ป.ป.ช.

การเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายตรวจสอบ


ในหนังจักรๆวงศ์ๆ วิธีการต่อสู้กับยักษ์-มาร ดีที่สุด ก็คือการเพิ่มพลังให้กับเทวดา-พระเอก จะได้สู้กันอย่างสมเนื้อสมเนื้อ แต่ในการเมืองไทย ยุคที่ "นักการเมือง" ถูกตราหน้าแบบเหมารวมว่า "เลว"

วิธีดีที่สุด ในการรับมือกับ "คนไม่ดี" ก็น่าจะได้แก่การเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายตรวจสอบ ซึ่งน่าจะดีกว่า ข้อเสนอของคนบางกลุ่มที่ให้ปิดเทอมการเมือง 3-5 ปี ที่ไม่น่าจะแก้ปัญหาอะไรได้ จะดีจะชั่ว เราต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญปี 2540 ก็ให้กำหนดนวัตกรรมใหม่ทางการเมืองที่เรียกว่า "องค์กรอิสระ"

โดยเฉพาะองค์กรอย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ที่เข้ามาตรวจสอบการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ แทนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ป.) ในอดีต ที่เป็นเพียง "เสือกระดาษ" เพราะไม่ว่าส่งลงโทษอะไรไป ก็มักจะไม่มีใครปฏิบัติตาม

อำนาจของป.ป.ช.มาจาก "พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ" มีบทลงโทษเข้ม ขลัง ทั้งทางวินัยและอาญา แต่เมื่อการทุจริต-คอร์รัปชั่น-ประพฤติมิชอบมีวิวัฒนาการของมัน การป้องกัน-ปราบปรามพฤติกรรมก็ต้องวิ่งไล่ตามให้ทัน หลังปี 2550 ป.ป.ช.ถึงขนาดต้องให้ "นิยาม" ศัพท์ที่เกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นใหม่ เพื่อขยายกรอบและวิธีการทำงาน

กล้านรงค์ จันทิก กรรมการป.ป.ช.กล่าวว่า คอร์รัปชั่นรูปแบบเดิม คือ รับหรือให้สินบน ให้ข้อมูลลับ ให้ของขวัญ ทำงานล่วงเวลากับบริษัทที่ตนเองมีหน้าที่ตรวจสอบ ทำงานโดยเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง

"แต่ปัจจุบันมีคอร์รัปชั่นรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า "ทุจริตเชิงนโยบาย" คือทำกำหนดนโยบายมาเพื่อทุจริต ซึ่งต้องมี 3 องค์ประกอบ 1.มีการใช้อำนาจสูงสุดของรัฐ ทั้งออกนโยบายหรือออกกฎหมาย 2.ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์สาธารณะทำเพื่อประโยชน์ส่วนบุคคล และ 3.ทำลายระบบเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง"

"กล้านรงค์" กล่าวว่า นอกจากนี้ป.ป.ช.ยังขยายคำจำกัดความเรื่องร่ำรวยผิดปกติ จากเดิมที่จะมองแค่ 3 ปัจจัย คือ 1.มีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือไม่ 2.มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติหรือไม่ และ 3.มีหนี้สินลดลงผิดปกติหรือไม่ แต่ช่วงหลัง ป.ป.ช.จะดูปัจจัยที่ 4.ได้ทรัพย์สินมาโดยมิสมควรสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจใน ตำแหน่งหน้าที่ด้วยหรือไม่

"การตรวจสอบของป.ป.ช.ข้อหาร่ำรวยผิดปกตินอกจากจะดู 3 ปัจจัยแรกยังต้องดูปัจจัยสุดท้ายด้วยว่า ในการออกนโยบายแต่ละครั้ง มีใครได้ประโยฃน์ สมมุติว่าบริษัทที่ 1 2 3 และ 4 ได้ประโยชน์ได้ประโยชน์ ก็ต้องมาดูว่าบริษัทเหล่านั้นเป็นของใคร มีใครถือหุ้นบ้าง และผู้ถือหุ้นมีความสัมพันธ์กับผู้ที่ออกนโยบายหรือไม่"

ด้วยความสลับซับซ้อนของเทคนิคในการทุจริต เป็นเหตุให้คณะกรรมการป.ป.ช.ยังได้จัดทำ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... หรือกฎหมายป.ป.ช.ฉบับใหม่ ที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และนายกรัฐมนตรีส่งขึ้นทูลเกล้าฯขอให้ทรงลงพระปรมาภิไธย เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้ว

"วิชา มหาคุณ" กรรมการป.ป.ช.กล่าวว่า อำนาจตามกฎหมายฉบับนี้ จะปิดจุดอ่อนการทำงานเดิมและให้อำนาจใหม่ที่ป.ป.ช.ไม่เคยมีมาก่อน

เนื้อหาในร่างกฎหมายฉบับใหม่ น่าสนใจเพราะมีหลายมาตรการ ที่ "อัพเพาเวอร์" องค์กรมือปราบแห่งนี้เห็นได้ชัด อาทิ

มาตรา 25/1 ให้คณะกรรมการป.ป.ช.เข้าถึงข้อมูลการเงินผู้ถูกกล่าวหาได้

"เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต คณะกรรมการป.ป.ช.จะแจ้งให้หน่วยงาน หรือสถาบันการเงินใดดำเนินการจัดให้กรรมการหรืออนุกรรมการไต่สวนเข้าถึง ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกกล่าวหา หรือบุคคลอื่นที่มีหลักฐานเพียงพอว่าเกี่ยวข้องในเรื่องที่กล่าวหา เพื่อประโยชน์ในการไต่สวนข้อเท็จจริงหรือเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของคณะกร รมการป.ป.ช. หรือคณะอนุกรรมการไต่สวน"

มาตรา 32 ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ส.ส. ส.ว. ข้าราชการการเมือง ผู้บริหารท้องถิ่น ฯ) ยื่นบัญชีทรัพย์สินที่อยู่ต่างประเทศหรือฝากไว้กับนอมินีด้วย

"ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามที่มีอยู่จริงในวันที่เข้ารับตำแหน่งหรือ วันที่พ้นจากตำแหน่งต่อคณะกรรมการป.ป.ช. ..ให้รวมถึงทรัพย์สินและหนี้สินในต่างประเทศและให้รวมถึงทรัพย์สินที่ผู้ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมอบหมายให้อยู่ในความครอบครองหรือดูแลของบุคคลอื่น ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมด้วย"

มาตรา 74/1 หยุดนับอายุความถ้าผู้ถูกกล่าวหาหลบหนี

"ในการดำเนินคดี ถ้าผู้ถูกกล่าวหลบหนีไปในระหว่างถูกดำเนินคดี มิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีรวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ"

มาตรา 103/1 กำหนดให้ความผิดฐานมีการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นความผิดฐานทุจริต

"บรรดาความผิดที่บัญญัติไว้ในหมวดนี้ (มีผลประโยชน์ทับซ้อน) ให้ถือเป็นความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย"

นอกจากนี้ยังเพิ่มบทบัญญัติใหม่ๆที่ป.ป.ช.ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งอำนาจในการสั่งคุ้มครองพยาน ให้สินบนผู้แจ้งเบาะแส ขอให้ผู้บังคับบัญชาเลื่อนขั้น หรือขอกันตัวไว้เป็นพยาน

"ในกรณีที่คณะกรรมการป.ป.ช.เห็นว่า คดีใดสมควรจัดให้มีมาตรการคุ้มครองช่วยเหลือแก่ผู้กล่าวหา ผู้เสียหายผู้ทำคำร้อง ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้ให้ถ้อยคำ หรือผู้ที่แจ้งเบาะแสหรือข้อมูลใดเกี่ยวกับการทุจริตตำแหน่งหน้าที่ .. ให้คณะกรรมการป.ป.ช.แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรการคุ้มครองบุคคลดัง กล่าว โดยให้ถือว่าเป็นพยานที่มีสิทธิได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้ม ครองพยานในคดีอาญา" (มาตรา 103/2)

"ให้คณะกรรมการป.ป.ช. จัดให้มีเงินสินบน หรืออาจจัดให้มีรางวัลตอบแทนหรือประโยชน์อื่นใดแก่บุคคล ตามมารตา 103/2 วรรคหนึ่ง แล้วแต่กรณี จากจบประมาณตามที่ระเบียบป.ป.ช.กำหนด" (มาตรา 103/3)

"ให้กรณีที่บุคคลตามมาตรา 103/2 วรรคหนึ่ง เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและคณะกรรมการป.ป.ช.เห็นว่าการดำเนินการหรือให้ถ้อยคำ หรือแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลเป็นประโยชน์ .. ให้คณะกรรมการป.ป.ช.เสนอครม.เพื่อการพิจารณาเลื่อนขั้นเลื่อนเงินเดือน และระดับตำแหน่งให้แก่บุคคลนั้นเป็นกรณีพิเศษ" (มาตรา 103/4)

"บุคคลหรือผู้ถูกกล่าวหารายใดซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำ ความผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหารายอื่น หากได้ให้ถ้อยคำ หรือเแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญในการที่จะใช้เป็นพยานหลักฐานใน การวินิจฉัยชี้มูลการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐรายอื่นนั้น และคณะกรรมการป.ป.ช.เห็นสมควรจะกันผู้นำไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดีก็ได้" (มาตรา 103/6)

วิธีการข้างต้น ทั้งขยายคำจำกัดความ-ออกกฎหมายใหม่-ขยายอำนาจทางกฎหมายของป.ป.ช.

ไม่ต่างจากการมอบ "ดาบอาญาสิทธิ์" เล่มใหม่ให้"องค์กรตรวจสอบการทุจริต" นี้

เป็น 1 ในวิธีปฏิรูปการเมือง ที่น่าจะมีกว่าข้อเสนอ "ปิดประเทศ" ของคนบางกลุ่ม

เขียนโดย พงศ์พิพัฒน์ บัญชานนท์
วันศุกร์ที่ 08 เมษายน 2011
ศูนย์ข่าวสถาบันอิศรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา