แถลงการณ์ 10 กันยา รู้ทันนายกรัฐมนตรี
ตามที่สโมสรนิสิตคณะรัฐศาสตร์ และคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดให้มีงาน “นิสิตนักศึกษาพบนายก รัฐมนตรี” ขึ้นในวันที่ 10 กันยายนนี้ โดยมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดงาน จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลนั้น สามารถพิจารณาได้ว่างานดังกล่าว เป็นผลพวงมาจากเหตุการณ์ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของนักศึกษากลุ่มประชาคมจุฬาฯเพื่อประชาชน ที่ได้พยายามชูป้ายประท้วงและยื่นจดหมายต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งเดินทางมากล่าวปาฐกถาในงานวันครบรอบ 60 ปี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่กลับถูกขัดขวางโดยคณะผู้ดูแลงาน จนทำให้กลุ่มนักศึกษาดังกล่าวไม่สามารถใช้สิทธิ และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นได้อย่างที่ควรจะเป็น ในสังคมที่กล่าวอ้างว่ายึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ซึ่งเป็นที่มาของการจัดงานในครั้งนี้ พวกเรามีความเห็นว่า การพบนิสิตและนักศึกษา ของนายกรัฐมนตรี เป็นเพียงละครปาหี่ตบตาประชาชนอย่างที่เคยเป็นมาตลอดอีกเรื่องหนึ่งเท่านั้น พวกเราทราบดีว่างานที่ถูกจัดขึ้นนี้ เป็นเพียงเครื่องมือ ที่นายกรัฐมนตรีจะใช้ในการสร้างภาพ ว่าตนเป็นบุคคลที่เปิดกว้าง รับฟังคำติชม และยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง นั่นหมายความว่า นิสิตนักศึกษา ที่มาในวันนี้ จะกลายเป็นเพียงเครื่องมือที่ถูกหยิบใช้ เพื่อบริหารความนิยมชมชอบ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดูดีให้กับรัฐบาลมือเปื้อนเลือดเท่านั้น เหนือสิ่งอื่นใด ตามคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีเอง ที่ว่า “การกระทำสำคัญที่สุด ถ้ากระทำไปในทิศทางเดียวกับคำพูด” ยิ่งแสดงให้พวกเราได้เห็นว่า ทุกสิ่งที่อย่างที่รัฐบาลทำ ความพยายามจะสร้างภาพความปรองดองสมานฉันท์นั้น เป็นเพียงการปิดบังความจริงด้วยวิธีการอันฉาบฉวย
ถ้านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดนี้ มีจิตใจเปิดกว้าง รับฟังคำติชม และยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างจริง ศพของประชาชนผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อย 91 ศพ จะไม่มีวันเกิดขึ้น เป็น 91 ศพ ที่เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา เป็น 91 ศพ ที่เรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ ขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ นั่นคือ การได้หายใจในบรรยากาศของประเทศที่เป็นประชาธิปไตย เมื่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ไม่อาจมีความกล้าหาญที่จะเสียสละผลประโยชน์ส่วนตนให้กับประเทศชาติได้ การปราบปรามประชาชนผู้เห็นต่างก็เกิดขึ้น การกระทำที่ดูใจกว้างในวันนี้ วันที่ 10 กันยายน ช่างแตกต่างกันลิบลับกับการขอคืนพื้นที่ในวันเดียวกันนี้เมื่อห้าเดือนที่แล้ว
เราจะมีหลักประกันอะไร ว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีกล่าว จะไม่ใช่เรื่องลมๆแล้งๆ ดูสวยหรูแต่สร้างภาพอย่างที่เคยทำมา และเราจะมีหลักประกันอะไรว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ จะเป็นการรับฟังความคิดเห็นของนิสิต นักศึกษาอย่างบริสุทธิ์ใจ ในเมื่อ “เพื่อนของเรา” บางคนยังถูกจับกุมคุมขัง และบางส่วนถูกส่งไปบำบัดทางจิต
ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.)
ขอแสดงจุดยืนต่อรัฐบาลเผด็จการมือเปื้อนเลือด และงานละครปาหี่ตบตาประชาชนในครั้งนี้ ว่า
1. งาน “นิสิต นักศึกษา พบนายกรัฐมนตรี” เป็นงานที่ไม่มีความบริสุทธิ์ใจ เป็นเพียงละครสร้างภาพตบตาประชาชนเท่านั้น นอกจากจะด้วยเหตุผลที่การกระทำของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับคำพูดแล้ว การเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดงานจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาเป็นตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลนั้น แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรี ไม่เห็นคุณค่าความคิดเห็นของนิสิต นักศึกษาอย่างแท้จริง และยังสำคัญตนเองเป็นใหญ่ เสมือนเรียกให้นิสิต นักศึกษาต้องเข้าพบ แทนที่จะยอมเดินทางไปรับฟังความคิดเห็นของนิสิตนักศึกษาจากในรั้วมหาวิทยาลัยด้วยตนเอง
2. “การกระทำสำคัญที่สุด ถ้ากระทำไปในทิศทางเดียวกับคำพูด” นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลต้องรู้จักการกระทำที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับคำพูด นั่นคือ ไม่คุกคามสิทธิ เสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็นของนิสิต นักศึกษา และประชาชน เพราะข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก็คือ คนที่เห็นต่างจำนวนมาก ถูกรัฐบาลทำให้กลายเป็นศัตรูของชาติ และถูกจับกุมคุมขัง มีแต่คนที่มืดบอดทางสติปัญญาเท่านั้น ที่จะเชื่อคำกล่าวสร้างภาพของรัฐบาลว่าเป็นเรื่องจริง
พวกเราขอประกาศจุดยืนว่า การมาร่วมงาน “นิสิต นักศึกษา พบนายกรัฐมนตรี” ครั้งนี้ ไม่ใช่การเข้าร่วมสังฆกรรมกับคณะละครตบตาที่ชื่อว่า “กระบวนการปฏิรูปประเทศ” หรือมาเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลมือเปื้อนเลือดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่เรามาเพื่อทวงถามข้อสงสัย ชี้แจงข้อเท็จจริงและข้อมูลบางอย่าง ที่เราหวังว่าจะช่วยให้ประชาชนเริ่มตั้งคำถาม และพิจารณาถึงความไม่ชอบธรรมในการใช้อำนาจบริหารงานองรัฐบาลชุดนี้
พวกเราเชื่อว่า ไม่มีรัฐบาลใดจะมีความชอบธรรมในการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนมากไปกว่ารัฐบาลที่มาจากเจตจำนงของประชาชน ซึ่งผ่านการเลือกตั้ง ไม่ใช่ด้วยความช่วยเหลือของทหาร การยุบสภายังคงเป็นวิถีทางในการรับฟังกระแสตอบรับของประชาชนที่ดีที่สุด ที่รัฐบาลปัจจุบัน สมควรจะทำ
หยุดสร้างภาพ หยุดการปรองดองบนกองเลือด
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)
หมายเหตุ ที่มาของข่าวบางส่วนจากเว็บไซต์มติชน
ขอสนับสนุนและให้กำลังใจกับท่านทั้งหลายที่เป็นห่วงประเทศไทย มากกว่าหวงอำนาจของตนเองอย่างเช่นนายกฯ
ตอบลบประเทศไทยคงพอจะมีหวังกับพลังหนุ่มสาวที่เข้มแข็งและมีอุดมการณ์เหล่านั้น ซี่งกำลังเคลื่อนไหวด้วยสติปัญญา คงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเหมือน ตุลา 16 และ ตุลา 19 คนอายุมากที่เคยร่วมเหตุการณ์สองครั้งนั้น ขอให้กำลังใจและพร้อมร่วมมือ แม้กำลังกายจะลดน้อยถอยลง แต่ขอย่าให้มีการตายอีกเลย
ตอบลบก่อการใหญ่ ใช่เรื่องง่าย ดังที่คิด
ตอบลบเมื่อยังผิด ในคำพูด พิสูจน์ได้
สัจธรรม นำให้เห็น ที่เป็นไป
ประชาธิปไตย ไทยหมกเม็ด เผด็จการ
จึงมิกล้า ยุบสภา หรือลาออก
ใครก็บอก คืนอำนาจ บริหาร
คงไม่ยอม เสียโอกาส เป็นรัฐบาล
ตามต้องการ นานแสนนาน เฝ้ารอมา
จึงร้องหา สมานฉันท์ กันอีกหน
ประชาชน เห็นสุดเอื้อม เอือมระอา
เมื่อได้ที ขี่แพะไล่ ไม่นำพา
ที่เรียกหา ความปรองดอง เพื่อครองไทย
ไม่ครองธรรม เป็นผู้นำ ที่กลับกลอก
ถ้าต้องออก มิอาจกลับ คืนมาใหม่
จึงสู้ทน ให้แบกหน้า อยู่ต่อไป
โอ้ ประชา ธิปไตย ในมือโจร