และการเคลื่อนไหวคัดค้านของประชาชนในพื้นที่ จังหวัดกาฬสินธุ์
มิถุนายน ๒๕๕๐ รัฐบาล คมช. เห็นชอบแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า ๒๐๐๗ (แผนพีดีพี ๒๐๐๗)
โดยมีพลังงานนิวเคลียร์อยู่ในแผน ๒,๐๐๐ เมกะวัตต์
ตุลาคม ๒๕๕๐ จัดตั้ง "สำนักพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์"
ตั้งงบประมาณ ๑,๘๐๐ ล้านบาท สำหรับเตรียมการระยะที่ ๑ (๒๕๕๑-๒๕๕๓)
ตุลาคม ๒๕๕๐ กฟผ.ว่าจ้าง บริษัท เบิร์น แอนด์ โร ศึกษาความเหมาะสม และสถานที่ตั้งโครงการ
มีนาคม ๒๕๕๓ รัฐบาลอภิสิทธิ์ อนุมัติแผน พีดีพี ๒๐๑๐ เพิ่มขนาดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็น ๕,๐๐๐ เมกะวัตต์
กรกฎาคม ๒๕๕๓ กฟผ.สรุปผลการคัดเลือกพื้นที่จะตั้งโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์
๑. อุบลราชธานี ๒.นครสวรรค์ ๓.ตราด ๔.สุราษฎร์ธานี ๕.ชุมพรธันวาคม ๒๕๕๓ กฟผ.เสนอพื้นที่ให้ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ
กฟผ.ตั้งงบประมาณกว่า ๒๐๐ ล้านบาท เพื่อจัดรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในพื้นที่หลายจังหวัดให้ประชาชนยอมรับโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
มกราคม ๒๕๕๔ กฟผ.เริ่มถูกต่อต้านจากชาวจังหวัดอุบลราชธานี จึงมีความพยายามจะมาใช้พื้นที่ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แทน เนื่องจากมีแหล่งน้ำดิบในเขื่อนลำปาว
ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๔ กฟผ.เริ่มจัดสัมมนาประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์
๗ มีนาคม ๒๕๕๔ ประชาชนในพื้นที่อำเภอห้วยเม็ก เริ่มรวมตัวกันตรวจสอบข้อมูลเพื่อเตรียมการเคลื่อนไหวคัดค้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
๘ มีนาคม ๒๕๕๒ เครือข่ายพลเมืองประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย จังหวัดกาฬสินธุ์ (คปท.กาฬสินธุ์) และแนวร่วม เครือข่ายพลเมืองฯ อีก ๔ จังหวัด ได้แก่ คปท.ร้อยเอ็ด มหาสารคาม หนองคาย และชัยภูมิ เตรียมการรณรงค์คัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียรี์
๑๑ มีนาคม คปท.กาฬสินธุ์ขึ้นป้ายคัดค้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และแจกแถลงการณ์ ฉบับที่ ๑ ในพื้นที่อำเภอห้วยเม็ก
๑๒ มีนาคม ประชาชนในอำเภอห้วยเม็กและอีกหลายอำเภอในจังหวัดกาฬสินธุ์ตื่นตระหนกและหวาดกลัวอย่างมากหลังทราบรายงานข่าวอุบัติภัยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศญี่ปุ่นจากเหตุสึนามิ
๑๓-๑๔ มีนาคม คปท.กาฬสินธุ์ รวบรวมทุนทรัพย์ เครื่องมือและอุปกรณ์ โดยการสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์และ คปท.อีก ๔ จังหวัดในภาคอีสานเคลื่อนไหวเตรียมการจัดขบวนรถรณรงค์คัดค้าน
๑๔ มีนาคม ๒๕๕๔ กฟผ.ยังคงเดินหน้าจัดสัมมนาประชาชนเพื่อเตรียมการตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
ขณะที่วันเดียวกันนี้ โฆษกรัฐบาล ปณิธาน ออกมาแถลงข่าว นายกอภิสิทธิ์ สั่งทบทวนโครงการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และว่า โดยส่วนตัวนายกอภิสิทธิ์ก็ไม่เห็นด้วย ซึ่งขัดกับข้อเท็จจริงดังกล่าวมาแล้วข้างต้น
๑๕ มีนาคม ๒๕๕๔ คปท.๕ จังหวัดภาคอีสาน เคลื่อนขบวนรณรงค์คัดค้านทั่วจังหวัดกาฬสินธุ์และอ่านแถลงการณ์ฉบับที่ ๑ อีกครั้งหนึ่ง ที่หน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เพิ่งรู้ข้อมูลเป็นทางการครั้งแรก พร้อมให้ความช่วยเหลือชาวบ้านเต็มที่ ย้ำชัดเจนน้ำในเขื่อนลำปาวจะต้องถูกใช้เพื่อการเกษตร การอุปโภค บริโภค ของพี่น้องกาฬสินธุ์เท่านั้น
หลังจากนั้นผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ได้รับหนังสือคัดค้านและฟังคำแถลงการณ์แล้ว พร้อมชี้แจงแนวทางแก้ไขปัญหา สร้างความพอใจให้กับผู้ชุมนุมและแยกย้ายกันกลับบ้านโดยสงบ