ประชาธิปไตยในสังคมออนไลน์
โดย บุญชิต ฟักมี
ที่มา : มติชนออนไลน์
สำหรับวงการสังคมออนไลน์ไทย พันทิป ดอต คอม เป็นตัวละครสำคัญที่ยากจะปฏิเสธค่าที่เป็นเวบบอร์ดที่มีอายุยืนยาวเกือบที่สุดของวงการอินเทอร์เน็ทไทย ตั้งแต่ยุคโมเด็ม 14 K ถึงไฮสปีด 6M ด้วยอายุเกินสิบปี ตั้งแต่สมัยที่สมาชิกทั้งเวบรวมกันสามารถนั่งกินก๋วยเตี๋ยวกันได้ในร้านเดียว จนกระทั่งมีสมาชิกหลักหมื่นในทุกวันนี้
เวบพันทิป หรือพูดให้ถูก คือประชาคมพันทิป กระเพื่อมพลังสะเทือนออกมานอกจอหลายต่อหลายครั้งอย่างมีนัยยะ นับตั้งแต่การอุ้มชูหนังที่ทำท่าจะเจ๊งจนเป็นหนังระดับติดกระแสอย่าง "โหมโรง" ชุบชีวิตร้านหอยทอดลุงเตาถ่าน ไล่ล่าจับโกหกนักร้องเนปาลกำมะลอจนไปจบในเรือนจำ หรือถอดถอนโฆษณานับไม่ถ้วนที่ไม่ชอบด้วยจริตชุมชน
ในวันนี้ เวบพันทิปถูก "ท้าทาย" ครั้งสำคัญที่สุด จนน่าเสียดายหากจะปล่อยทิ้งหลงลืมโดยไม่มีการบันทึกไว้
นั่นคือการ "ลุกฮือ" ของผู้เล่นกลุ่มสำคัญ ที่ลุกขึ้นร้องถามความชอบธรรมในการดำเนินงานของผู้ดูแลเวบ หรือ Webmaster จนกระทั่งเกิดการปะทะกันเชิงอำนาจ ที่มีการสูญเสียสมาชิกภาพ (หรือเรียกลำลองว่า "อมยิ้ม") กันครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเวบนี้
เรื่องมันเริ่มจากการที่ สมาชิกท่านหนึ่ง วาดการ์ตูนล้อเลียนวัฒนธรรมการกิน "บุฟเฟต์" ไว้ในห้องก้นครัว ซึ่งเป็นห้องที่พูดคุยแลกเปลี่ยนว่าด้วยอาหารและร้านอาหาร การ์ตูนนั้นล้อเลียนพฤติกรรมการกินบุฟเฟต์ที่ไม่พึงประสงค์หลายอย่าง รวมทั้งเสียดสีพฤติการณ์ของ "สมาชิก" ขาใหญ่หลายคน ในรูปแบบของการ์ตูนล้อเลียน ซึ่งคนที่อยู่นอกแวดวงคงดูไม่เข้าใจ หรือถึงเข้าใจ ก็ยากแก่การระบุตัวคน
อย่างไรก็ตาม การ์ตูนนั้นถูกลบโดยทีมงานของเวบพันทิป ด้วยข้อกล่าวหาว่า มีคำหยาบคาย แม้ต่อมา ผู้วาดได้ไปแก้ไขเอาคำหยาบคายออกแล้วมาโพสต์ใหม่ในกลุ่มการ์ตูน (เพื่อป้องกันการลบโดยอ้างว่าผิดห้องผิดกลุ่ม) แต่กระทู้การ์ตูนนั้นก็ยังถูกลบอยู่ดี พร้อมกับ สมาชิกรายหนึ่งยื่นฟ้องต่อศาลอาญาธนบุรี ว่าผู้วาดการ์ตูนหมิ่นประมาทตน โดยขอให้ศาลลงโทษตามกฎหมายและบังคับให้จำเลยขอขมาตามคำขอแบบคดีหมิ่นประมาททั่วไป
คดีในศาลใช้เวลาต่อสู้กันเกือบปี ในขณะที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดี ฝ่ายโจทก์ก็ได้โพสต์ความคืบหน้าของคดีในลักษณะการ "เย้ย" ฝ่ายจำเลย รวมทั้งประการสำคัญที่สุด คือการอวดอ้างต่อบรรดาแฟนๆ ว่า จำเลยถูกศาลจับใส่กุญแจมือ
หากเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ศาลได้มีคำพิพากษา "ยกฟ้อง" จำเลย เนื่องจากโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ให้ศาลเห็นได้ว่า ตัวการ์ตูนที่จำเลยวาดนั้นคือโจทก์ - กล่าวคือ ตัวการ์ตูนไม่มีลักษณะบ่งชี้ว่าเป็นใคร และโจทก์ก็ไม่ใช่คนเดียวที่ตั้งกระทู้ในเวบพันทิปชักชวนคนไปกินอาหารตามที่ต่างๆ
เมื่อคำพิพากษาออกมาเช่นนั้น ฝ่ายจำเลยจึงมาประกาศแจ้งคำพิพากษาให้ผู้ใช้บริการคนอื่นๆในเวบดังกล่าวทราบ พร้อมกับนำเสนอภาพการทำอาหารเมนู "ฉลองอิสรภาพ" คือ มะระยำ ตำบอน และที่ฮือฮาที่สุดคือ "แลน" (หรือกล่าวให้สุด คือสัตว์ร่วมสกุล{Varanus} ของ "เหี้ย") ทอดสมุนไพร
ทว่าผลของกระทู้ดังกล่าว คือการระงับสมาชิกภาพของผู้ตั้งรวมทั้งลบกระทู้นั้นทิ้ง
ท่ามกลางเสียงคัดค้านโวยวายอย่างอึงอลว่ามีกลุ่มที่เรียกว่า "มาเฟีย" ในเวบพันทิป คือสมาชิกที่ได้รับการ "ให้ท้าย" จากกลุ่มผู้ดูแล – เช่นในกรณีนี้ ที่ระหว่างฟ้องคดี ฝ่ายโจทก์จะเย้ยจะหยันจำเลยอย่างไรก็ทำได้ แต่เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายชนะคดีพ้นข้อกล่าวหา กลับถูกลบกระทู้และสมาชิกภาพ
และยังข้อกังขาของสมาชิก ว่าทางผู้ดูแลของเวบพันทิป ไปให้การในศาลในฐานะพยานฝ่ายโจทก์ ที่มีการเบิกความเป็นโทษเพื่อเอาผิดต่อจำเลยอย่างชัดเจนในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
สมาชิกที่คัดค้านเรียกร้องดังกล่าว ถูกระงับสมาชิกภาพลงในทันที หลังจากโพสต์ข้อความไม่นาน
ตามด้วยการระงับสมาชิกภาพของสมาชิกกลุ่มที่คัดค้านว่า การระงับสมาชิกภาพแบบสาดมั่วของผู้ดูแลเวบนั้นเป็นการลุแก่อำนาจ สมาชิกบางส่วน ไปตั้งกระทู้เสียดสีผู้ดูแลพันทิป ด้วยการตั้งกระทู้ที่เกี่ยวกับ "เป็ด" (ตามภาพของการ์ตูนที่ฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาวาดจนเป็นเหตุให้ถูกฟ้องร้อง) แน่นอนว่า พวกเขาถูกระงับสมาชิกภาพในไม่กี่นาที
กระทั่งสมาชิกที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ที่โพสต์คำว่า "เป็ด" ในช่วงนั้น ก็ถูกระงับสมาชิกภาพไปด้วย หรือแม้แต่กระทู้ที่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ถูกลบหายเช่นกัน
แม้ว่าผู้ดูแลเวบ – วรพจน์ หิรัฐประดิษฐกุล จะอ้างว่า การลบสมาชิกภาพและกระทู้ดังกล่าวว่า นอกจากจะเป็นไปเพื่อป้องกันมิให้สมาชิกถูกฟ้องเนื่องจากคดี "ยังไม่แพ้ชนะ" แล้ว ยังเนื่องมาจากภาพอุจาดวาดเสียวในการชำแหละแลนในกระทู้ต้นเหตุ แต่เหตุผลดังกล่าวก็ยังฟังไม่ขึ้นสำหรับสมาชิกกลุ่มใหญ่ รวมทั้งเป็นคำอธิบายที่ไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมายด้วย ความอึดอัดคับข้องดังว่านั้นทำให้มีผู้ยื่นขอคืนสมาชิกภาพหลายราย พร้อมกับสมาชิกภาพที่ถูกระงับ และกระทู้ถูกลบเพราะ "ลองของ" ในแทบทุกนาที ในช่วงวันพฤหัส วันศุกร์ ต่อวันเสาร์
และในที่สุด การต่อต้านทวงถามหรือเสียดสีอันมีเนื้อหาข้อความหรือรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับ "เป็ด" ก็ลุกลามไปทุกกลุ่มทุกห้องในพันทิป มี “อมยิ้ม” หรือสมาชิกที่สังเวยตนเองบ้าง ถูกลบถูกยึด มีทั้งผู้ที่ใช้บริการมานานเกินสิบปี หลายคนเป็นที่รู้จักว่าเป็นผู้ตั้งผู้ตอบเวบที่มีคุณภาพ หรือเป็นผู้เผยแพร่สูตรและวิธีทำอาหารที่ได้รับการยอมรับ ทั้งหลายทั้งปวงก็ไม่รอดจากการ "สังหารหมู่อมยิ้ม" ของพันทิปในช่วงสองวันเดือดที่ผ่านมา
ต้องไม่ลืมว่า การสมัครเป็นสมาชิกเวบพันทิปนั้นเป็นเรื่องค่อนข้างยุ่งยากวุ่นวาย ผู้ใช้ต้องยืนยันตัวเองด้วยการแจ้งข้อมูลราษฎร์พร้อมหลักฐาน หรืออย่างน้อยคือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ไปให้เวบพันทิปเพื่ออนุมัติการมี "ล็อกอิน" หรือชื่อสมาชิกภาพ
แต่กระนั้น จนถึงขณะนี้ มีผู้ถูกระงับสมาชิกภาพ (เรียกลำลองว่า ยึดล็อกอิน) หรือคืนสมาชิกภาพด้วยตนเองแล้วเกินกว่าร้อยชื่อ จะด้วยความเหลืออดต่อความอยุติธรรม หรือกระไรก็ตามแต่ รวมทั้งมีผู้เข้าร่วมกลุ่ม "มั่นใจว่าคนไทยเยอะแยะไม่เชื่อมั่นมาตรฐานเว็บพันทิป" ที่เพิ่งตั้งขึ้นเมื่อวันศุกร์ เกินกว่าเก้าพันคน และเชื่อว่าน่าจะเกินหมื่นคนได้ภายในวันหรือสองวันนี้
สถานการณ์ยังไม่ถึงจุดจบ แม้จะคลี่คลาย ด้วยคำประกาศจาก วันฉัตร ผดุงรัตน์ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของเวบพันทิป ว่า ได้รับทราบเรื่องแล้ว และมีนโยบายที่จะไม่ให้มีการ "ยึดล็อกอิน" พร่ำเพรื่ออีก รวมทั้งจะทำการคืนสมาชิกภาพให้ผู้ที่ถูกระงับสมาชิกภาพโดยไม่เป็นธรรมต่อไป ซึ่งคุณวันฉัตรได้อ้างว่าเหตุที่ฝ่ายผู้ดูแลได้กระทำการดังกล่าว ก็เนื่องจากเกรงว่าเวบพันทิปจะต้องถูกฟ้องตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ประกอบกับจะปรับปรุงระบบการลบกระทู้ยึดล็ออกอินให้เป็นธรรมดีขึ้นกว่านี้
แต่ก็ยังมีคนเข้าร่วมกลุ่ม "มั่นใจฯ ไม่เชื่อมั่นมาตรฐานเว็บพันทิป" อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการคืนสมาชิกภาพก็ยังมีปรากฎประรายจนถึงวันนี้
เพราะความกังขาก็ยังมี ทั้งประเด็นว่า มีสมาชิกกลุ่มที่เวบพันทิป "ให้ท้าย" อยู่ และได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด หรือสมาชิกบางคน ใช้วาจาเกะกะระราน ด่าทอ เย้ยหยัน สมาชิกคนอื่นอย่างชัดเจนเป็นที่น่ารังเกียจ แต่ก็ดูเหมือนกับว่า ทางพันทิปก็ยังรักษาสมาชิกภาพไว้ให้อย่างเหนียวแน่น (ล่าสุดสมาชิก "ขาใหญ่" ผู้นั้น ได้ตั้งกระทู้ในทำนองอวดอ้างว่าได้ไปกินข้าวกับกลุ่ม "มาเฟียพันทิป" หรือสมาชิกเก่าแก่รุ่นก่อตั้ง อย่าง "สบายอารมณ์" ท่ามกลางกระแสการลุกฮือของสมาชิกกลุ่มหนึ่ง)
ใคร่ขอบันทึกไว้ ในฐานะของเหตุการณ์ที่เป็นเรื่องฮือฮาในโลกไซเบอร์ไทย ที่อยากตั้งข้อสังเกตไว้ในฐานะที่มองเรื่องนี้ว่า "ไม่ธรรมดา" และอาจจะเป็น "บทเรียน" สำคัญ สำหรับการบริหารเวบต่อไปในทศวรรษต่อไปนี้
อันที่จริง ข้อกล่าวหาเรื่อง "มาเฟียพันทิป" หรือการใช้อำนาจไม่เหมาะสมของผู้ดูแลเวบนั้น ไม่ใช่ครั้งแรกๆ ที่เกิดเป็นประเด็นโต้เถียงร้องทุกข์ เรื่องนี้ถูกพูดจากล่าวหากันมาตั้งแต่ช่วงขวบปีแรกของเวบพันทิปเสียด้วยซ้ำ
หากแต่ในครั้งนั้น และครั้งที่ผ่านๆมา เสียง "ต่อต้าน" หรือยกประเด็นเรื่องมาเฟียในเวบนั้นมักจะเป็นเสียงข้างน้อยที่ถูกมองว่าเป็นพวกอกหักตีรวน หรืออย่างเก่งคือ เสียงก้ำกึ่ง หาใช่ฉันทามติของคนกลุ่มใหญ่เช่นในครั้งนี้
และเกิดในยุคที่การสร้าง "พื้นที่" บนโลกออนไลน์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก รวมทั้งเทคโนโลยีอื่นที่เริ่มจะรุกคืบเข้ามาเกลื่อนกลืนในช่องทางแสดงอัตลักษณ์อย่าง "เวบบอร์ด" ได้บ้าง อย่างเช่นเฟซบุ๊คหรือทวิตเตอร์
ในยุคที่คำว่า "นายของเวบ" หรือ Webmaster อาจจะเป็นสิ่งล้าสมัย ด้วยถูกท้าทายด้วยคำว่า Social Network หรือสังคมออนไลน์ ที่ไม่มีใครเป็น "นาย" ใครเป็น "ข้า" ไม่มีใคร "ขึ้น" ใคร "ลง" ต่อกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ประชาธิปไตย เป็นจิตวิญญาณของเรา